ครม.ไฟเขียวสมาร์ทวีซ่า หวังดึงผู้เชี่ยวชาญทำงานในไทย

ทำเนียบรัฐบาล 16  ม.ค.-คณะรัฐมนตรีไฟเขียวออกสมาร์ทวีซ่าหวังดึงผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ
นักลงทุน เข้ามาพัฒนาประเทศ สำหรับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติช่วยหนุน 10
กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
 


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนจัดวีซ่าประเภทพิเศษ (สมาร์ทวีซ่า) เพื่อดึงดูด
นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ชาวต่างชาติ ผู้บริหารระดับสูง ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ
เข้ามาทำงานในไทย ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 
อาทิ ยานยนต์แห่งอนาคต เทคโนโลยีอาหาร การบินแห่งอนาคต การท่องเที่ยว  เพื่อสร้างโอกาสการเรีบนรู้เทคโนโลยีและแหล่งเงินทุนของคนไทย
หวังกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
เสริมความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0  เริ่มเปิดให้ขอวีซ่าได้ตั้งแต่วันที่ 1
กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

สำหรับคุณสมบัติและสิทธิประโยชน์ของสมาร์ทวีซ่า จะแบ่งเป็น 4 ประเภท
คือ กลุ่ม
Smart  T ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงด้านวิทยาศาสตร์
เพราะเป็นสาขาที่ยังขาดแคลนในการพัฒนาด้านนวัตกรรม ได้รับวีซ่าเป็นเวลา 4 ปี
จากเดิม 90 วัน ต้องเป็นผู้ได้รับเงินเดือน 200,000 บาทต่อเดือน
มีสัญญาจ้างไม่น้อยกว่า 1 ปี มีใบรับรองจากหน่วยงานของรัฐ โดยไม่ต้องขออนุญาต
โดยคู่สมรส บุตร เข้ามาทำงานในประเทศได้ยกเว้นในสาขาห้ามคนต่างด้าวทำงาน 39 อาชีพ
เพื่อให้ครอบครัวติดตามเข้ามาอยู่อาศัยด้วย
ไม่เช่นนั้นผู้เชี่ยวชาญต่างชาติจะไม่เดินทางเข้ามาด้วย


กลุ่ม  Smart I เป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มเป้าหมาย
ต้องลงทุนในนามบุคคลไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท ในกลุ่มเป้าหมาย
ต้องลงทุนในบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานในการทำธุรกิจและอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
เป็นต้น 
 และกลุ่ม Smart E  เป็นผู้บริหารระดับสูงทำงานในกิจการกลุ่มเป้าหมาย
เงินเดือนไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อเดือน มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ และกลุ่ม
Smart S เพื่อส่งเสริมการลงทุนในสตาร์ทอัพ
ต้องทำการตั้งบริษัทภายใน 1 ปี ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 25 กลุ่ม     อุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งนาโนเทคโนโลยี
อิเล็คทรอนิกส์  โดยทั้ง 4
กลุ่มที่ต้องการส่งเสริมคาดว่าจะมีผู้เดินทางเข้ามาใช้สิทธิไม่เกินพันคน
จึงถือว่าไม่กระทบต่อแรงงานในประเทศ
และต้องการคนกลุ่มนี้เข้ามาช่วยพัฒนาด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีของไทย

นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนรีได้ย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า
รัฐบาลไม่ได้ลดบทบาทด้านพลังงานของบมจ.ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ).
ตามที่เป็นข่าว และยังต้องการส่งเสริมให้หน่วยงานด้านพลังงานดูแลรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน
เพียงแต่ต้องการให้เกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อประสิทธิภาพด้านพลังงาน
ดังนั้นกระแสข่าวการจำกัดบทบาทของหน่วยงานด้านพลังงานไม่เป็นความจริงและได้นำมติคณะรัฐมนตรีเดิมมาตีความบิดเบือน
จึงย้ำว่า ปตท.และกฟผ. ยังเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลด้านพลังงาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน