กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – อธิบดีกรมทางหลวงชนบท สั่งการหน่วยงานในสังกัดให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมกำชับให้บูรณาการร่วมกับจังหวัดในทุกมิติ ทั้งด้านกำลังคน ยานพาหนะ รถบรรทุกน้ำ และการมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือ
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มอบหมายให้สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วม ระดมเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งนำเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ ป้ายเตือน สิ่งอำนวยความปลอดภัย ไปจนถึงการบูรณาการร่วมกับจังหวัด ในการสนับสนุนกำลังคนเข้าช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ แขวงทางหลวงชนบทแพร่ ที่ได้ร่วมบูรณาการกับจังหวัด ในการนำอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในชุมชนสวรรคนิเวศ ชุมชนเชตวัน ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของแขวงทางหลวงชนบทน่าน ที่ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภคไปยังศูนย์พักพิง ที่สนามกีฬาจังหวัดน่าน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นอีกด้วย
อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ (วันที่ 26 ก.ค. 68 เวลา 09.00 น.) ได้รับผลกระทบรวม 6 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ น่าน แพร่ พะเยา ตาก อุบลราชธานี รวม 41 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 20 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 21 สายทาง ซึ่งสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้มีดังนี้
1.ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.3019 แยก ทล.101 – บ้านมงคลเจริญสุข อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 7+000 – 8+000)
2.ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.4020 แยก ทล.1168 – บ้านห้วยสอน อำเภอภูเพียง, เวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 10+500 – 10+900 และ ช่วง กม.ที่ 31+690 – 32+200)
3.ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4029 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 95+225) – โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 8+900 – 9+000)
4.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.3014 แยก ทล.103 (กม.ที่ 16+650) – บ้านร่องถ่าน อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+800 – 1+500)
5.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4004 แยก ทล.1023 – บ้านทุ่ง อำเภอเมือง,สูงเม่น,เด่นชัย จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+000)
6.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4012 แยก ทล.1154 – แก่งเสือเต้น อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 2+100 – 3+500)
7.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4016 แยก ทล.1023 – บ้านดงเจริญ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 3+550)
8.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4025 แยก ทล.1154 (กม.ที่ 44+950) – บ้านหล่มด้ง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+000)
9.ถนนเชิงลาดสะพานแม่น้ำยม (สาย พย.003) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+100 และช่วง กม.ที่ 0+100 – 0+300)
10.ถนนเชิงลาดสะพานแม่น้ำยม (สาย พย.002) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+100)
11.ถนนทางหลวงชนบทนครน่านพัฒนาสาย นน.012 นครน่านพัฒนา อำเภอภูเพียง – เมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+500)
12.ถนนเชิงลาดสะพานข้ามแม่น้ำยมสาย พร.001 อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+485 – 1+185)
13.ถนนเชิงลาดสะพานวังธงสาย พร.003 อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+743)
14.ถนนเชิงลาดสะพานศรีภูมิพัฒนา (สาย นน.011) อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+300)
15.ถนนเชิงลาดสะพานนาเหลืองพัฒนาสาย นน.008 นครน่านพัฒนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+250)
16.ถนนเชิงลาดสะพานหัวเวียงเหนือ – น้ำต้วนพัฒนา (สาย นน.021) อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+300)
17.ถนนเชิงลาดสะพานดู่ใต้พัฒนาสาย นน.007 อำเภอเมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+250)
18.ถนนเชิงลาดสะพานกองควายประชาพัฒนาสาย นน.016 อำเภอเมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+250)
19.ถนนเชิงลาดสะพานประชาร่วมรัฐพัฒนาสาย นน.014 อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+400)
20.ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3006 แยก ทล.105 – บ้านวังผา อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 7+290 – 7+300)
21.ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3002 แยก ทล.105 – บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 11+950 – 12+000, ช่วง กม.ที่ 12+100 – 12+150 และ ช่วง กม.ที่ 16+500 – 16+550)
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือน ป้ายบอกทาง ป้ายบอกระดับน้ำ ซึ่ง ทช. ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเร่งด่วน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยบนถนนทางหลวงชนบทได้ที่สายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146.-513.-สำนักข่าวไทย