ทช.ช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง

กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – อธิบดีกรมทางหลวงชนบท สั่งการหน่วยงานในสังกัดให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมกำชับให้บูรณาการร่วมกับจังหวัดในทุกมิติ ทั้งด้านกำลังคน ยานพาหนะ รถบรรทุกน้ำ และการมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือ


นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มอบหมายให้สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วม ระดมเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งนำเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ ป้ายเตือน สิ่งอำนวยความปลอดภัย ไปจนถึงการบูรณาการร่วมกับจังหวัด ในการสนับสนุนกำลังคนเข้าช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ แขวงทางหลวงชนบทแพร่ ที่ได้ร่วมบูรณาการกับจังหวัด ในการนำอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในชุมชนสวรรคนิเวศ ชุมชนเชตวัน ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของแขวงทางหลวงชนบทน่าน ที่ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภคไปยังศูนย์พักพิง ที่สนามกีฬาจังหวัดน่าน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นอีกด้วย

อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ (วันที่ 26 ก.ค. 68 เวลา 09.00 น.) ได้รับผลกระทบรวม 6 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ น่าน แพร่ พะเยา ตาก อุบลราชธานี รวม 41 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 20 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 21 สายทาง ซึ่งสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้มีดังนี้


1.ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.3019 แยก ทล.101 – บ้านมงคลเจริญสุข อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 7+000 – 8+000)
2.ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.4020 แยก ทล.1168 – บ้านห้วยสอน อำเภอภูเพียง, เวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 10+500 – 10+900 และ ช่วง กม.ที่ 31+690 – 32+200)
3.ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4029 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 95+225) – โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 8+900 – 9+000)
4.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.3014 แยก ทล.103 (กม.ที่ 16+650) – บ้านร่องถ่าน อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+800 – 1+500)
5.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4004 แยก ทล.1023 – บ้านทุ่ง อำเภอเมือง,สูงเม่น,เด่นชัย จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+000)
6.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4012 แยก ทล.1154 – แก่งเสือเต้น อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 2+100 – 3+500)
7.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4016 แยก ทล.1023 – บ้านดงเจริญ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 3+550)
8.ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4025 แยก ทล.1154 (กม.ที่ 44+950) – บ้านหล่มด้ง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+000)
9.ถนนเชิงลาดสะพานแม่น้ำยม (สาย พย.003) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+100 และช่วง กม.ที่ 0+100 – 0+300)
10.ถนนเชิงลาดสะพานแม่น้ำยม (สาย พย.002) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+100)
11.ถนนทางหลวงชนบทนครน่านพัฒนาสาย นน.012 นครน่านพัฒนา อำเภอภูเพียง – เมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+500)
12.ถนนเชิงลาดสะพานข้ามแม่น้ำยมสาย พร.001 อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+485 – 1+185)
13.ถนนเชิงลาดสะพานวังธงสาย พร.003 อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+743)
14.ถนนเชิงลาดสะพานศรีภูมิพัฒนา (สาย นน.011) อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+300)
15.ถนนเชิงลาดสะพานนาเหลืองพัฒนาสาย นน.008 นครน่านพัฒนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+250)
16.ถนนเชิงลาดสะพานหัวเวียงเหนือ – น้ำต้วนพัฒนา (สาย นน.021) อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+300)
17.ถนนเชิงลาดสะพานดู่ใต้พัฒนาสาย นน.007 อำเภอเมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+250)
18.ถนนเชิงลาดสะพานกองควายประชาพัฒนาสาย นน.016 อำเภอเมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+250)
19.ถนนเชิงลาดสะพานประชาร่วมรัฐพัฒนาสาย นน.014 อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+400)
20.ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3006 แยก ทล.105 – บ้านวังผา อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 7+290 – 7+300)
21.ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3002 แยก ทล.105 – บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 11+950 – 12+000, ช่วง กม.ที่ 12+100 – 12+150 และ ช่วง กม.ที่ 16+500 – 16+550)

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือน ป้ายบอกทาง ป้ายบอกระดับน้ำ ซึ่ง ทช. ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเร่งด่วน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยบนถนนทางหลวงชนบทได้ที่สายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146.-513.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]