กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – “พิชัย” ผนึกกำลังเอกชน-ภาครัฐและทูตพาณิชย์ทั่วโลกขยายตลาดส่งออก ฝ่าความท้าทาย ส่งมอบ 10 นโยบายเร่งด่วน ขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ (สคต.) และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมกว่า 200 ราย โดยในงานทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าฯ และสภาผู้ส่งออกเข้าร่วมงานด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการระดมพลทีมกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบูรณาการการทำงานเชิงรุกในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลอย่างมีเอกภาพ และเชื่อมโยงกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการกำหนดแนวทางผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง ท่ามกลางความท้าทายจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดยที่ประชุมได้เสนอแผนกลยุทธ์เจาะตลาดสำคัญ 5 กลุ่ม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย ตะวันออกกลาง อาเซียน และจีน โดยเฉพาะการใช้ Soft Power สร้างกระแสนิยมสินค้าไทยในตลาดระดับบน การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และการบูรณาการระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ


“ปี 2568 ยังคงเป็นปีทองของการส่งออกไทย หากสามารถดำเนินมาตรการตามแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเจรจา FTA กับ EU และการบุกตลาดใหม่ในตะวันออกกลางและอาเซียน รวมถึงการใช้ “Thai SELECT โฉมใหม่” ที่เป็นการให้ดาว เป็น Soft Power ยกระดับอาหารไทยสู่มาตรฐานโลก” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า ได้มอบนโยบาย 10 ประเด็นสำคัญ เพื่อ “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” ขยายตลาดส่งออก สร้างความเชื่อมั่น และเสริมบทบาทของไทยในเวทีการค้าโลก ได้แก่ 1.ทิศทางของเศรษฐกิจไทยกำลังไปได้ดี โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ขยายตัว 10.2% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และ 7 เดือนของรัฐบาลท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร การส่งออกไทยเติบโตต่อเนื่องขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 12.5%
2.เดินหน้าเจรจามาตรการภาษีของสหรัฐฯ บนพื้นฐานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน
3.เร่งรัดการเจรจาและลงนาม FTA ใหม่ ทั้งกับกลุ่มประเทศ EFTA ภูฏาน EU สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และอาเซียน-แคนาดา ซึ่งตนมีนัดพบกับนายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ เพื่อผลักดันให้การเจรจา FTA กับ EU สำเร็จเร็วที่สุด โดยตั้งเป้าปิดดีลภายในปีนี้
4.ขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ 7 มาตรการ 25 แผนงาน ทั้งด้านตลาด ความเชื่อมั่น การแปรรูป และการอำนวยความสะดวก
5.เปิดตลาดใหม่ให้สินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ข้าวและมันสำปะหลัง
6.แก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรในพื้นที่อย่างทันท่วงที โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ
7.ประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โฉมใหม่ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์อาหารไทยในตลาดโลก
8.ส่งเสริมการบูรณาการทำงานไร้รอยต่อระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์
9.สื่อสารผลงานของกระทรวงพาณิชย์เชิงรุก สร้างความเข้าใจในบทบาทและภารกิจของกระทรวง
- เน้นทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ในทุกมิติของการค้าและการส่งออก
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยยินดีที่ได้รับฟังแนวทางทั้งระยะสั้น กลาง และยาวจากรัฐมนตรี โดยเฉพาะระยะสั้นประเด็นภาษีของสหรัฐฯ ที่ต้องเร่งแก้ไขร่วมกัน
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การทำงานเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ช่วยให้ภาคเอกชนวางแผนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และพร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ในภาวะที่การแข่งขันรุนแรง
นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ได้เห็นภาพการประชุมร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์ไปในทิศทางที่ดีมาก เป็นมิติของโปรแอคทีฟทางเราเห็นว่าการค้าระหว่างประเทศเราน่าจะไปได้ดี กระทรวงพาณิชย์พร้อมเป็นนักรบทางการค้าระหว่างประเทศ. -511-สำนักข่าวไทย