ประจวบคีรีขันธ์ 17 ก.ย.-กรมธนารักษ์จะเปิดตัวโครงการบ้านสำหรับคนไทย
20
จังหวัดทั่วประเทศเดือนตุลาคมนี้ พร้อมเปิดให้ภาครัฐ-เอกชน ยื่นเสนอราคาพัฒนา Senior Complex ที่ประจวบคีรีขันธ์
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์
นำคณะเจ้าหน้าที่พร้อมสื่อมวลชน ลงตรวจพื้นที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ปข.320 พื้นที่ 11.2.26 ไร่
ริมถนนเลียบชายทะเล-สวนสน ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างเป็นศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุหรือ
Senior Complex ภายใต้กรอบการดำเนินการในหลักการเดียวกับโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ
โดยนำที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพเหมาะสมมารองรับการดำเนินการ นับเป็นจังหวัดที่ 5
จากที่ก่อนหน้านี้ มีโครงการ Senior Complex ที่จังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ
นครนายกและจังหวัดเชียงใหม่มาแล้ว
อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวว่า ต้นปีงบประมาณ 2561
หรือช่วงเดือนตุลาคมนี้
กรมธนารักษ์จะเปิดตัวโครงการบ้านสำหรับคนไทยทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 20 จังหวัด
โดยเป็นความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ที่ให้การสนับสนุนวัสดุก่อสร้างในราคาพิเศษ
ให้มีราคาขายประมาณ 500,000 บาท
กรมธนารักษ์ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการจะช่วยดูแลคนไทยกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลาง
ขณะที่คนไทยที่มีรายได้น้อย การเคหะแห่งชาติ(กคช.)จะดูแล และ Senior Complex ก็เช่นกัน เดือนตุลาคมนี้
กรมธนารักษ์จะเปิดให้ภาครัฐและเอกชนที่สนใจพัฒนาโครงการเข้ายื่นข้อเสนอได้
สำหรับราคาต่อหน่วยจะดูแลให้เป็นราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โดยมีแนวคิดที่จะให้ราคาซื้อสิทธิอยู่อาศัยต่อหน่วยต่ำกว่า 1 ล้านบาท
อัตราผ่อนชำระเดือนละหลักพันบาท
สำหรับโครงการ Senior Complex ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นี้
จะเป็นโครงการที่รองรับสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพิงหรือ Nursing Home แต่ไม่ถึงขั้นเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง
เนื่องจากบริเวณนี้มีโรงพยาบาลในพื้นที่สามารถส่งต่อผู้ป่วยได้อยู่แล้ว
โดยผู้พัฒนาโครงการจะมีการทำบันทึกความร่วมมือกับโรงพยาบาลในพื้นที่กรณีส่งตัวผู้ป่วยไปเพื่อรับการรักษาพยาบาลต่อไป
เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
ซึ่งกรมธนารักษ์ต้องการให้ผู้ที่อยู่ในภาคธุรกิจนี้เช่น
ธุรกิจโรงพยาบาลเข้ามายื่นข้อเสนอพัฒนาโครงการที่มีระยะเวลาสัญญาเช่านาน 30 ปี เพราะเมื่อเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการแล้ว
ก็จะเหมือนกับมีการลงทุนเปิดคลินิกชุมชนที่จะช่วยให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงเข้ามารับการรักษาพยาบาลได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยผู้พักอาศัย
ซึ่งหมายผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ
จะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือประชาชนทั่วไปก็ได้ ต้องมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป
กรณีดำเนินการโดยภาคเอกชน ผ่านการเปิดประมูล
กรณีนี้จะเปิดให้ชาวต่างชาติพักอาศัยได้ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 49
ของจำนวนหน่วยในแต่ละโครงการ
นายพชร ยังลงพื้นที่ออกตรวจ
ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ปข. 330 และ ปข.359 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ที่นางสาวจำรวย กลองรักษ์ บริจาคให้เมื่อปี2504
โดยเงื่อนไขของผู้บริจาคคือให้ประมูลขายและนำเงินมอบให้โรงพยาบาลศิริราชเพื่อนำไปใช้สร้างอาคารผู้ป่วย
กรมธนารักษ์ จะเปิดให้ยื่นซองประมูล ในวันที่ 20 กันยายนนี้ตั้งแต่ 9.00-10.30 น. ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ประจวบคีรีขันธ์และเปิดซองประมูลในวันเดียวกันในเวลา
11.30 นาที
ผู้ประมูลได้
จะต้องทำความตกลงกับวัดไกลกังวลเองกรณีที่วัดได้ก่อสร้างรุกล้ำที่ราชพัสดุเนื้อที่ประมาณ
1 ไร่เศษ
และจะต้องรับซื้อโฉนดเลขที่ 4979 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทผู้บริจาคที่ดิน เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่รวมไปด้วย
อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวอีกว่า กรมธนารักษ์
ได้แก้ไขหลักเกณฑ์การเช่าที่ราชพัสดุใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชน
ซึ่งขณะนี้มีกฎหมายรองรับ สามารถเช่าที่ราชพัสดุได้ จากเดิมให้เช่าได้เฉพาะปัจเจกบุคคลและสหกรณ์เท่านั้น
ซึ่งได้ส่งหนังสือเวียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบแล้ว-สำนักข่าวไทย
