กรุงเทพฯ 7 พ.ย.-ก.ล.ต. เผยความคืบหน้าของกองทุน Thai ESG มีรวม 34 กองทุน สินทรัพย์สุทธิ 10,046 ล้านบาท นอกจากนี้คณะกรรมการมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักการในการออกหลักเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ย. 67) มีทั้งหมด 34 กองทุน เพิ่มจากสิ้นปี 2566 จำนวน 12 กองทุน โดยเป็นกองทุนที่ขอจัดตั้งใหม่ 9 กองทุน และ 3 กองทุนเป็นกองทุนเดิมที่ขอแก้ไขโครงการเพื่อเพิ่ม class Thai ESG (ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับกองทุน Thai ESG ที่จัดตั้งใหม่) สินทรัพย์สุทธิ (NAV) 10,046 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 ซึ่งมี 5,267 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าของการดำเนินงานทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม (Green Investment Trust : GIT) คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบเมื่อ 1 ส.ค. 67 ให้มีการปรับปรุงหลักการในการออกหลักเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการ GIT ดังนี้
-เพื่อรองรับและสนับสนุนการลงทุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมภาคป่าไม้หรือการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกที่สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) ของประเทศ
-เพื่อส่งเสริมธุรกิจ ผู้ลงทุน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีส่วนร่วมในการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นช่องทางการระดมทุนในตลาดทุนแก่ธุรกิจ ทั้งโครงการสิ่งแวดล้อมที่ออกมาใหม่หรือเป็นโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กองทรัสต์ GIT ไม่ได้เป็นไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินส่วนตัวของบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นการเฉพาะ (private trust) หรือเป็นการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
สำหรับทรัพย์สินหลักที่กำหนดให้กองทรัสต์ GIT ลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม มีดังนี้
(1)กรรมสิทธิ์หรือสิทธิการเช่าที่ดิน เฉพาะกิจกรรมในภาคป่าไม้และการเกษตร เพื่อกักเก็บปริมาณคาร์บอนให้เพียงพอตามเงื่อนไขขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.
(2)สิทธิตามสัญญาแบ่งรายได้ในอนาคตของโครงการตาม (1)โดยที่ดินต้องอยู่ในประเทศไทย และอย่างน้อยโครงการทั้งหมดจะต้องขึ้นทะเบียนในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) กับ อบก. หรือมาตรฐานคาร์บอนเครดิตสากลอื่นที่เป็นที่ยอมรับทั่วไป.-512.-สำนักข่าวไทย