ก.พาณิชย์ 29 ต.ค.- นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ (30 ต.ค.) คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน จะมีการประชุมนัดแรก โดยวาระสำคัญก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำกับดูแลสินค้าต่างชาติ ไม่ได้มาตรฐานที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงมาตรการส่งเสริมสินค้า SMEs ของไทยให้สามารถแข่งขันได้
ทั้งนี้ เนื่องจากการเข้ามาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศ ทำให้สังคมมีความกังวลว่าผู้บริโภคในประเทศจะได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ทะลักเข้ามาขายในประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จนเกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ SMEs ของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าวจึงได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปช่วยแก้ปัญหา โดยขับเคลื่อนผ่านกลไกภายใต้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อดำเนินการเชิงรุกในการติดตามและเร่งรัดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และตั้งเป้าให้มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนภายใน 3 เดือน ส่วนจะมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง ต้องรอมติที่ประชุมพรุ่งนี้
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบธุรกิจที่มีลักษณะนอมินี หรือการให้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ว่า ในปี 2567 กรมฯ มีเป้าหมายตรวจสอบนิติบุคคลจำนวน 2 หมื่นกว่าราย ใน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ภัตตาคาร ร้านอาหาร นำเที่ยว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าที่ดิน ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต และธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ โดยได้ตรวจสอบ คัดกรองแล้ว พบว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นนอมินี 498 ราย และได้ทำการตรวจเชิงลึก ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ตั้ง งบการเงิน ไม่พบความผิดปกติ 424 ราย และพบมีความเสี่ยง 70 ราย เนื่องจากไม่ได้ชี้แจงทางบัญชีงบการเงิน หรือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.บัญชี จึงส่งให้กรมสรรพากรเป็นผู้ตรวจสอบ ขณะที่ 4 บริษัท ที่พบเป็นบริษัทเป็นนอมินีต่างชาติ ได้ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำการทางกฎหมาย เพื่อขยายผลต่อไป รวมถึงอยู่ระหว่างตรวจสอบบริษัทอสังหาฯ จีนรายใหญ่ ที่ก่อสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ จ.นนทบุรี
นอกจากนี้ กรมฯ ยังอยู่ระหว่างร่วมกับตำรวจไซเบอร์, ปปง. และกระทรวงดีอี ตรวจสอบบริษัทที่จดทะเบียนนิติบุคคลเข้าข่ายเป็นบัญชีม้าให้กับเว็บไซต์พนันออนไลน์ หรืออาจจะเป็นมิจฉาชีพหลอกลวง เพื่อดำเนินการทางกฏหมายต่อไป. -517-สำนักข่าวไทย