กรุงเทพฯ 29 ต.ค. – “พิชัย” รับลูกนายกฯ สานต่อข้อเสนอ กกร. แก้ปัญหาเป็นระบบเร่งด่วน ทั้งปัญหาสินค้านำเข้าด้อยคุณภาพ-เร่งเจรจา FTA -อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล-ปิดบริษัทม้าที่เชื่อมบัญชีม้า
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากที่วานนี้ได้ร่วมคณะหารือระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ในการรับมอบสมุดปกขาว ข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศ นับว่าเป็นข้อเสนอที่ดีที่ทำให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ได้รับข้อเสนอที่เป็นประโยชน์หลายเรื่อง โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ นายกฯ สั่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 4 เรื่อง มีทั้งเรื่องที่ดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง และเรื่องที่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาสินค้านำเข้าด้อยคุณภาพ, การเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ, การอำนวยความสะดวกให้กับผู้กับผู้ประกอบการ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบ 100% รวมถึงการปิดบัญชีบริษัทม้าที่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า
โดยในเรื่องปิดบัญชีบริษัทม้าที่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หารือร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยได้รับทราบว่า มีนัดหมายกันในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคมนี้ ในเบื้องต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะได้ชะลอการจดทะเบียนนิติบุคคลให้กับบุคคลที่อยู่ในบัญชีความเสี่ยง มีการเพิ่มความเข้มงวดในการรับจดทะเบียนด้วยมาตรการต่างๆ เช่น ให้บุคคลที่เป็นผู้ต้องสงสัยตามประกาศรายชื่อ HR 03 ของ ปปง. ต้องมาแสดงตนต่อหน้านายทะเบียน เป็นต้น โดย HR 30 นั้น ปปง.ระบุเป็นบุคคลที่มีรายชื่อเสี่ยงสูงต่อการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในกรณีบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐาน หรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐาน รหัส HR-03
“นายกฯ ห่วงใยให้เร่งดำเนินการทุกเรื่องตามข้อเสนอ กกร. โดยในส่วนของปัญหาสินค้านำเข้าไม่มีคุณภาพมาตรฐานและธุรกิจต่างประเทศที่ผิกฎหมาย แต่งตั้ง “คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย” ดึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งรัดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ตั้งเป้าให้มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนภายใน 3 เดือน และนัดแรกจะจัดประชุมในวันพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) เพื่อติดตามความคืบหน้าและพิจารณามาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป” รมว.พาณิชย์ ระบุ
นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้เร่งรัดเจรจาFTA กับประเทศใหม่ๆ และเร่งสรุปผลการเจรจาที่ยังคั่งค้าง เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุน รวมถึงใช้ประโยชน์ด้านส่งออก-นำเข้า โดยการเจรจา FTA ที่ใกล้ปิดดีล เช่น ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) มีสมาชิก 4 ประเทศ คือ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ หากเจรจาสำเร็จในปีนี้ ไทยจะเป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่ทำ FTA กับ EFTA นอกจากนั้น ยังผลักดัน FTA อื่นๆ เช่น FTA กับสหภาพยุโรป (EU) ปากีสถาน ภูฏาน UAE และอินเดีย ทำให้ภายในรัฐบาลนี้ คาดว่าจะสรุปผลการเจรจาได้อีกหลายฉบับ รวมๆ มากกว่า 10 ประเทศ จากปัจจุบันไทยมี FTA 15 ฉบับ กับเพียง 18 ประเทศ ซึ่งจะทำให้ไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด
ในเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ได้คิกออฟระบบการให้บริการส่งออกสินค้ามาตรฐาน “OCS Connect” ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบ 100% ตั้งแต่ในสัปดาห์แรกที่เข้ามารับตำแหน่ง โดยระบบดังกล่าว ครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่การออกใบทะเบียน/ใบอนุญาต การตรวจสอบมาตรฐานสินค้า จนกระทั่งการออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าเพื่อประกอบพิธีการศุลกากรขาออกผ่านระบบ National Single Window (NSW) ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และเบ็ดเสร็จในแพลตฟอร์มเดียว โดยผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามาติดต่อ เพราะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดเอกสารที่ซ้ำซ้อน ลดขั้นตอนการดำเนินงานที่ไม่จำเป็น และรองรับการชำระค่าธรรมเนียมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ e-Payment ได้ทันที. -511-สำนักข่าวไทย