กสทช.จับมือสตาร์ทอัพ หนุนใช้ “Mobile ID“

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – สำนักงาน กสทช. ผนึกกำลังสตาร์ทอัพเดินเครื่อง “Mobile ID” ยืนยันตัวตนด้วยมือถือแทนบัตรประชาชน หนุนภาคเอกชนใช้งานทั่วประเทศ


นางสาวพูลศิริ นิลกิจศรานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) โดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้ให้เงินสนับสนุนผู้ชนะรางวัลโครงการประกวดนวัตกรรมใหม่ในการนำบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์โทรศัพท์เคลื่อนที่ (แทนบัตร) ไปใช้งาน Mobile ID ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถือ ใช้ในกระบวนการยืนยันตัวตน หรือยืนยันตัวตนออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยให้ภาคเอกชนดำเนินธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศสู่สังคมดิจิทัลที่ก้าวหน้าและทันสมัย สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0

สำหรับบริษัทที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ บริษัท นายเน็ต จำกัด ขณะนี้ได้เริ่มใช้ Mobile ID กับคลินิกทันตกรรม โรงแรม ที่พัก และรีสอร์ท และบริษัท เออเบิ้น รูม จำกัด และผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ เริ่มใช้ Mobile ID แพลตฟอร์ม “มีโหวต” ช่วยให้การมีส่วนร่วมของคนในสังคมเป็นเรื่องง่าย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน Mobile ID เป็นวงกว้างในประเทศไทยส่งผลให้ธุรกิจ และประชาชนทั่วไปและภาคเอกชนได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น และยังเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญลดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นช่องว่างให้กลุ่มมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกลวง ประชาชนจนเกิดความเสียหายอีกด้วย


นายทินกร เหล่าเราวิโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายเน็ต จำกัด ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวด Mobile ID Innovation Award เปิดเผยว่าปัจจุบันบริษัทได้เชื่อมโยงระบบ Mobile ID เข้ากับคลินิกทันตกรรมที่บริษัทดูแลระบบหลังบ้านอยู่แล้วกว่า 2,000 แห่ง ผ่าน “โปรแกรมบริหารคลีนิคทัตกรรม FD ยืนยันตัวตนคนไข้ผ่าน Mobile ID ไร้กระดาษ สร้างความปลอดภัยให้คนไข้” และยังพัฒนา Mobile Hotel ให้ผู้เข้ามาใช้บริการ สามารถแสกน QR cord เพื่อเช็คอินตัวตนด้วย Mobile ID รายชื่อผู้เข้าพักจะปรากฏบนหน้าจอ และสามารถส่งข้อมูลทะเบียนผู้พัก ร.ร.4 ไปยังกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยได้ทันที ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการเอกชนทุกภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องการการยืนยันตัวตนของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ เช่น ธุรกิจโรงแรมที่พัก อาคารสำนักงาน สามารถเข้าใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://app.digitalid.center/#/welcome ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยหลังจากเปิดตัว นายเน็ต ตั้งเป้าโรงแรม ที่พัก ใช้การส่งข้อมูลแบบดิจิทัลเพิ่มเป็น 50% ภายใน 1 ปี จากเดิมมีการส่งข้อมูลเพียง 25%

“การนำ Mobile ID มาใช้ในภาคธุรกิจบริการ ไม่เพียงแต่ช่วยลดขั้นตอนการทำงานและลดต้นทุนการใช้กระดาษของผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับประชาชน ไม่ต้องนำบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรประชน ทิ้งไว้กับใครอีกต่อไป ที่ผ่านมา นายเน็ต ได้ร่วมจัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่การเชื่อมต่อระบบกับ Mobile ID โดยมี Startup กว่า 200 บริษัท อาทิ กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงานที่ควบคุมการเข้า-ออก รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วม เพื่อต่อยอดนวัตกรรม Mobile ID ให้ใช้งานได้อย่างแพร่หลายในภาคเอกชน จึงหวังให้งานเปิดตัวครั้งนี้กระตุ้นให้เกิดการใช้ Mobile ID ในภาคธุรกิจเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น” นายทินกร กล่าว

นายแทนศร พรปัญญาภัทร ในฐานะกรรมการบริษัท เออเบิ้น รูม จำกัด และผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศการประกวด Mobile ID Innovation Award เปิดเผยว่า แพลตฟอร์ม “มีโหวต” mevote.org [https://www.mevote.org/] ช่วยให้การมีส่วนร่วมของคนในสังคมเป็นเรื่องง่าย โดยกำหนดขอบเขตของผู้มีส่วนร่วมด้วย Mobile ID ที่บริษัทพัฒนาขึ้น จากประสบการณ์ในการทำงานด้านการพัฒนาเมือง พบว่าหนึ่งใน Pain Point ที่สำคัญของระบบทำแบบสอบถามและการรับฟังความคิดเห็น คือ ความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ ดังนั้น การที่แพลตฟอร์มมีโหวตเชื่อมโยงกับการยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID จึงช่วยแก้ Pain Point ได้โดยตรง อีกทั้ง ผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามหรือการรับฟังความคิดเห็นแบบออนไลน์ก็สามารถกรอกข้อมูลได้อย่างสะดวก ช่วยให้มั่นใจถึงแหล่งที่มาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ แพลตฟอร์มมีโหวต ยังช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมของสังคมอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าจากระบบปกติ เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล ลดอุปสรรคในการแสดงออก นำไปสู่ความหลากหลายของความคิดเห็นมากขึ้น ลดการใช้กระดาษ และลดการเดินทางเป็นต้น เนื่องจากผู้ตอบแบบสอบถามสามารถเข้าถึงแบบสอบถามได้ทุกที่ทุกเวลา


“การนำเทคโนโลยี Mobile ID มาประยุกต์ใช้กับระบบทำแบบสอบถามและการรับฟังความคิดเห็นออนไลน์เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีในการยกระดับการทำงานและการให้บริการต่างๆ ทำให้การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการพัฒนาเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใช้เพื่อการประชาพิจารณ์ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของสังคมความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศ โดยบริษัทได้เปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มของเราได้” นายแทนศร กล่าว. -516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส