“ภากร” ส่งไม้ต่อ “อัสสเดช” เห็นสัญญาณ fundflow ไหลเข้าต่อเนื่องถึงสิ้นปี

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 10 ก.ย. – “ภากร” ส่งไม้ต่อ “อัสสเดช” มองแนวโน้ม FED ลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผล fundflow ไหลเข้า Emerging Market ที่มีพื้นฐานดี แต่ต้องจับตาหากลดแรงอาจส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย ส่วนปัจจัยในประเทศ ทั้งการเมืองชัดเจน -ผลประกอบการ บจ.-วายุภักดิ์ -ThaiESG หนุนตลาดหุ้นไทย
 

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึง ภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนสิงหาคม 2567 SET Index ปิดที่ 1,359.07 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.9% จากเดือนก่อนหน้าสอดคล้องกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค ทำให้เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 SET Index ปรับลดลงเหลือเพียง 4.0% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร


มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai ปรับมาอยู่ที่ 46,028 ล้านบาท ลดลง 21.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า แต่ปรับเพิ่มขั้น 21.1% จากเดือนที่แล้ว ทำให้ 8 เดือนแรกของปี 2567 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 44,404 ล้านบาท ลดลง 22.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในเดือนสิงหาคม 2567 ไม่มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET และ mai ขณะที่ Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 14.9 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.9เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.4 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.1 เท่า ด้านอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567อยู่ที่ระดับ 3.50% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.16%


สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในเดือนสิงหาคม 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 498,404สัญญา เพิ่มขึ้น 31.2% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures และในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 444,557 สัญญา ลดลง 18.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures

นายศรพล กล่าวถึงมีปัจจัยต่างประเทศที่เอื้อต่อการเติบโตของ SET Index จากการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่เมือง Jackson Hole เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนาย Jerome Powell เปิดเผยถึงความเชื่อมั่นที่มากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% และถึงเวลาที่ FED ควรจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดคาดว่ามีแนวโน้มที่ FED จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมในเดือนกันยายนนี้ ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสปรับฐานหลังจากปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วงก่อนหน้าโดยเงินทุนมีโอกาสเคลื่อนย้ายไปยังหุ้นและพันธบัตรใน Emerging Market  ที่มีพื้นฐานดี อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการลดดอกเบี้ยของ FED ว่าจะลด 0.25% หรือ 0.50% เพราะหากลดมาก ก็เป็นการส่งสัญญาณถึงความกังวลเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ โดยเฉพาะตลาดแรงงาน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็น่าจะลดในระดับค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ ยังต้องจับตาเศรษฐกิจจีน แม้ขณะนี้จะยังไม่กระทบตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทย

ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ยังมีปัจจัยบวกที่ส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน อาทิ การเมืองไทยที่มีความชัดเจนมากขึ้นหลังมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่รายงานออกมาเข้มแข็งกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ร่างงบประมาณปี 68 ที่ผ่านวุฒิสภาแล้ว รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัท  จดทะเบียนไทยในไตรมาส 2/2567 ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนไทยหันมาใช้การซื้อหุ้นคืนเป็นเครื่องมือในการบริหารสภาพคล่องของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการซื้อหุ้นคืนยังช่วยส่งสัญญาณให้ผู้ลงทุนทราบว่าผู้บริหารมีความมั่นใจว่าราคาหุ้นในปัจจุบันถูกประเมินต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัทและกระตุ้นความต้องการซื้อหุ้นในตลาด อีกทั้งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีสภาพคล่องไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยในกองทุน Thai ESG และความชัดเจนในการออกขายกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่มีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ ซึ่งจะดึงดูดความสนใจผู้ลงทุนและสามารถช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นโดยรวมในตลาดทุน


”fund flow เริ่มเข้าไทยเดือนที่แล้ว แต่ไปพักอยู่ในตลาดพันธบัตรราว 10,000 ล้านบาท แต่เดือน ก.ย.เริ่มไหลกลับมาที่ตลาดหุ้นไทย จากปัจจัยที่กล่าวมา รวมถึงงาน Thailand Focus ที่ผ่านมาช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะ กลุ่มสุขภาพ อาหาร และบริการ คาดว่าจะส่งผลดีกับตลาดต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปี“ นายศรพล กล่าว

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวถึง fundflow ที่ไหลออกมากในปีที่แล้ว แต่ ปีนี้ เห็นทิศทางไหลกลับเข้ามา เห็นการรีบาวน์ ผลประกอบการของ บจ.จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และเห็นทิศทางที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังต้องติดตามในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ กลุ่มแบงก์ ลิสซิ่ง และธุรกิจที่มีการขยายกิจการ อย่างไรก็ตาม ตลาดทุนจะมั่นคงได้ต้องมีฐานนักลงทุนที่เติบโตอย่างสมดุลในทุกกลุ่ม รวมถึงการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วขึ้น เพื่อให้ตลาดทุนเติบโตอย่างยั่งยืน

พร้อมฝากเรื่องนี้ต่อนายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลท.คนใหม่ ที่เข้าร่วมฟังสรุปภาวะตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ก.ย.2567 .-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี