แผนปฏิรูปรถเมล์วันแรกทำผู้โดยสารสับสน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

กรุงเทพ 25 ก.ค. – ขสมก.จัดการเดินรถเส้นทางตามแผนปฏิรูปรถเมล์ ตั้งแต่วันนี้ (25 ก.ค.) พบหลายเส้นทางตัดระยะให้สั้นลง และเปลี่ยนเส้นทางในบางช่วง แต่ยังมีเส้นทางเดิมให้บริการถึง 30 ส.ค.นี้ โดยพบว่า ผู้สูงอายุที่ไม่ได้เล่นโซเชียล เดินทางลำบากมากที่สุด เพราะไปยืนรอรถเมล์ที่วิ่งประจำ แต่ปรากฏว่ารถไม่ได้วิ่งในเส้นทางนี้แล้ว


วันนี้ (25 ก.ค.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดการเดินรถเส้นทางตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง จำนวน 107 เส้นทาง ตามที่ได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อคราวประชุมครั้งที่ 7/2562 วันที่ 5 ก.ค. 2562 ถึงกระนั้นยังคงเดินรถเส้นทางเดิม ควบคู่กับเส้นทางปฏิรูปที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ และให้ผู้ใช้บริการได้ปรับตัว และจะหยุดวิ่งเส้นทางเดิมตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.นี้เป็นต้นไป

สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับ ขสมก. นอกจากจะมีเส้นทางเดินรถใหม่ ซึ่งจะให้บริการเริ่มต้นจำนวน 10 เส้นทางแล้ว มีหลายเส้นทางที่มีการเปลี่ยนแปลง และกระทบกับประชาชน ดังตัวอย่าง ได้แก่ สาย 21 วัดคู่สร้าง-จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปลี่ยนเป็น สาย 21 (4-6) วัดคู่สร้าง-มหานาค ตัดเส้นทางเหลือแค่มหานาค ไม่ผ่านถนนเจริญกรุง ถนนพระรามที่ 4 ไม่ถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการเดินทางไปจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถใช้สาย 21E (4-7E) วัดคู่สร้าง-จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยขึ้นทางด่วนสุขสวัสดิ์ ไปลงด่านสาทร ผ่านถนนสาทรเหนือ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนสีลม ถนนพระรามที่ 4 ถนนอังรีดูนังต์ สิ้นสุดเส้นทางที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


สาย 22 อู่สวนสยาม-สาธุประดิษฐ์ เปลี่ยนเป็น สาย 22 (3-40) ถนนตก-แฮปปี้แลนด์ ตัดต้นทางจากอู่สวนสยามเหลือแค่แฮปปี้แลนด์ ตัดปลายทางจากอู่สาธุประดิษฐ์ (เซ็นทรัลพระราม 3) เหลือแค่สิ้นสุดที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์

สาย 37 แจงร้อน-มหานาค เปลี่ยนเป็น สาย 37 (4-9) ท่าน้ำพระประแดง-จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปลี่ยนต้นทางจากเดิมซอยราษฎร์บูรณะ 37 เป็นท่าน้ำพระประแดง ไปตามถนนพระราชวิริยาภรณ์ ถนนราษฎร์บูรณะ และขยายจากมหานาค ผ่านถนนพระรามที่ 4 สิ้นสุดเส้นทางที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สาย 68 อู่แสมดำ-บางลำพู เปลี่ยนเป็น สาย 68 (4-12) แสมดำ-บางลำพู ยังคงให้บริการตามปกติ แต่ได้ยกเลิกเส้นทาง สาย 68 สมุทรสาคร-บางลำพู และสาย 68 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บางขุนเทียน-BRT ราชพฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2567 ผู้โดยสารที่มาจากจังหวัดสมุทรสาคร ใช้สาย 105 (4-18) สมุทรสาคร-สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี เพื่อไปต่อสาย 68 (4-12) แทน ส่วนผู้โดยสารที่มาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บางขุนเทียน มีสัมปทานสาย 4-31 แต่กรมการขนส่งทางบก ยังไม่เปิดคัดเลือกผู้เดินรถในสายนี้


สาย 205 อู่คลองเตย-เดอะมอลล์ท่าพระ เปลี่ยนเป็น สาย 205 (3-51) วงกลมคลองเตย – สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู จัดรูปแบบการเดินรถเป็นวงกลม โดยไม่ผ่านถนนพระราม 3 ช่วงแยกนราราม 3 ไม่ผ่านโรงเรียนนนทรีวิทยา ไม่ผ่านแยก ณ ระนอง และไม่ผ่านถนนสุนทรโกษา ช่วงแยก ณ ระนอง ถึงอู่คลองเตย โดยรถออกจากอู่คลองเตยจะวิ่งเป็นวงกลม

รถวนซ้าย ไปตามถนนเกษมราษฎร์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระรามที่ 4 ถึงแยกวิทยุ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทรใต้ ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ถนนราชพฤกษ์ เลี้ยวซ้ายที่แยกรัชดาฯ-ตลาดพลู เข้าถนนรัชดาภิเษก ผ่านเดอะมอลล์ท่าพระ สะพานพระราม 3 ถนนพระรามที่ 3 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนเลี้ยวขวาที่แยกสาทร-นราธิวาส เข้าถนนสาทรเหนือ ถึงแยกวิทยุ เลี้ยวขวาเข้าถนนพระรามที่ 4 เลี้ยวขวาเข้าถนนเกษมราษฎร์ สิ้นสุดที่อู่คลองเตย

ส่วนรถวนขวา ไปตามถนนเกษมราษฎร์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระรามที่ 4 ถึงแยกวิทยุ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทรใต้ เลี้ยวซ้ายที่แยกสาทร-นราธิวาส เข้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถึงแยกนราราม 3 เลี้ยวขวาเข้าถนนพระรามที่ 3 ข้ามสะพานพระราม 3 ถนนรัชดาภิเษก เดอะมอลล์ท่าพระ เลี้ยวขวาที่แยกรัชดาฯ-ตลาดพลู ไปตามถนนราชพฤกษ์ ถนนกรุงธนบุรี ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนสาทรเหนือ ถึงแยกวิทยุ เลี้ยวขวาเข้าถนนพระรามที่ 4 เลี้ยวขวาเข้าถนนเกษมราษฎร์ สิ้นสุดที่อู่คลองเตย

สาย 509 อู่บรมราชชนนี-สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 เปลี่ยนเป็น สาย 509 (4-60) หมู่บ้านเศรษฐกิจ-สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 โดยต้นทางเริ่มจากหมู่บ้านเศรษฐกิจ โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ไม่เข้าถนนพุทธมณฑล สาย 2 อีกต่อไป นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเส้นทางบางช่วง โดยเมื่อถึงแยกไฟฉายจะเลี้ยวขวาไปตามถนนพรานนก ถนนวังหลัง เลี้ยวซ้ายที่แยกศิริราช ผ่านโรงพยาบาลศิริราช ไปตามถนนอรุณอมรินทร์ เลี้ยวขวาที่แยกอรุณอมรินทร์ ไม่ผ่านตลาดบางขุนศรี แยกบางขุนนนท์ และพาต้าปิ่นเกล้า และทดแทนสาย 91 หมู่บ้านเศรษฐกิจ-สนามหลวง

ทางด้าน “เพจ รถเมล์ไทย” ซึ่งได้ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องได้โพสต์ในเพจสอบถามว่า “เช้านี้วุ่นวายกันไหมครับ แอดมินรับสาย สื่อมวลชน เครือข่ายต่างๆเยอะมาก คนใช้ก็งง พนักงานก็งง แอดมินก็งง” ปรากฏว่า มีประชาชนผู้ใช้บริการเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น “สงสารคนแก่ไม่รู้เรื่องราว ยืนรอรถที่ไม่ได้วิ่งแล้ว,สงสารคนแก่ที่สุด ยิ่งเจอคนแก่ที่ไม่ได้เล่นโซเชียล หนูก็พาลุงๆ ป้าๆขึ้นลงพร้อมกับหนูหลายรอบ,ขสมก.ปฏิรูปเส้นทางซะงง แถมมีสายแปลกๆเพิ่มมาอีก,เช้านี้รถเมล์น้อย ถนนโล่ง เจอแต่ละคันอย่างแน่น” ขณะที่บางคนแสดงความคิดเห็นว่า “วิธีแก้ก็คือ กลับไปใช้เลขสายแบบเดิมเถอะ ใครจะรับสัมปทานไปก็แค่อย่าให้รถน้อยคอยนาน เส้นทางใหม่ก็กำหนดเลขสายใหม่ต่อจากของเดิม,เขาไม่เห็นใจประชาชนหรอกครับ นั่งรถส่วนตัว นั่งห้องแอร์ จิปกาแฟเย็นสบายใจ แต่ชาวบ้านเดือดร้อน,มันไม่วุ่นวายแต่รถแน่นมาก รอนาน,บันเทิงสุดๆเมื่อเช้า,เส้นเพชรเกษม คนตกค้างเยอะมาก รถเมล์แน่นทุกคัน,คนคิดไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้คิด,มึนๆงงๆกันทั่วหน้าครับ แอดมิน”

ส่วน “เพจ ชุมชนคนรักรถเมล์” ได้โพสต์ข้อความ “บางสายหายไป บางสายเกิดใหม่ บางสายเปลี่ยนเส้นทาง มีทั้งทางเดิม ทางใหม่ วันนี้ใครขึ้นรถเมล์ ขสมก.ก็จะงงๆหน่อย ดูป้ายเลขให้ดีๆนะ” ซึ่งก็มีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่น “ทำให้ผู้โดยสารได้ฝึกสายตาและความไว ขสมก.ดีมากๆเลย,อะไรที่ไม่เคยเห็น วันนี้ก็ได้เห็นกันแบบงงๆกับเส้นทางใหม่,คนขึ้นประจำยังสับสน แล้วคนที่ไม่ค่อยได้ขึ้นจะสับสนขนาดไหน” ส่วนคนที่เข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง ก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยว่า “กระเป๋ารถเมล์ กับ คนขับ ก็ใจเย็นกับผู้โดยสารที่ไม่คุ้นด้วยนะครับ ค่อยๆอธิบาย ค่อยๆชี้แจงกันไป อย่าหัวร้อนง่าย ต้องอาศัยเวลาปรับตัว”บางคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นแบบติดตลกว่า “ต้องอ่านป้ายข้างรถ ผ่านที่ไหนบ้าง อ่านเสร็จ รถออกไปเลย ขึ้นไม่ทัน” เป็นต้น.- 513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย