คลังเอาแน่ให้ต่างชาติเช่า 99 ปี กระตุ้นอสังหาฯ ศก.ให้ฟื้นตัว

กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – “พิชัย” ย้ำรัฐบาลเดินหน้าโครงการเช่าอาคารชุด ให้ต่างชาติเช่านาน 99 ปี หวังกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตกค้างมากถึง 2 แสนยูนิต มั่นใจไม่ใช่หายนะ ต่างชาติมีสิทธิแค่ใช้ แต่ไม่มีกรรมสิทธิที่ดิน ชี้กังวลหนี้เอ็นพีแอลจากหนี้ครัวเรือนพุ่ง เตรียมหารือ ธปท.และแบงก์พาณิชย์ ร่วมหาทางลดหนี้เอ็นพีแอล


นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาและเสวนาพิเศษ ในหัวข้อ “พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืน” ว่า ยอมรับว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้กำลังประสบปัญหามีปริมาณอาคารชุดเหลืออยู่สูงถึงกว่า 200,000 ยูนิต คนไม่มีกำลังซื้อ เพราะมีปัญหาหนี้ครัวเรือนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เป็นสิ่งที่กระทรวงการคลังและรัฐบาลจะต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังเห็นว่าแนวทางการให้ต่างชาติเข้ามาเช่าอาคารชุดในระยะยาว 99 ปี ถือเป็นนโยบายที่เหมาะสมที่จะลดปัญหาการตกค้างของอาคารชุดให้น้อยลงได้ แต่แนวทางการเปิดให้เช่า จะต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์พื้นที่หรือโซนนิ่งที่ชัดเจนว่าจะให้ต่างชาติสามารถเช่าอาคารแต่ละยูนิต โดยกำหนดวงเงินมากกว่า 30-40 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งการเช่าต่างชาติจะมีกรรมสิทธิแค่การใช้ แต่การถือครองกรรมสิทธิยังเป็นสิทธิของผู้ให้เช่า ดังนั้นเมื่อครบกำหนดเช่า 99 ปี ต่างชาติจะต้องคืนสิทธิให้กับเช่าเดิม จึงถือว่าไม่ใช่มาตรการในการขายชาติตามที่หลายฝ่ายกังวลกัน เรื่องนี้ไม่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพียงแต่ไปกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้เกิดความชัดเจนของการเช่า และกระทรวงการคลังยังเห็นว่าที่ดินของหน่วยงานราชการที่มีอยู่เป็นจำนวนมากสามารถที่จะนำมาพัฒนาเพื่อเปิดให้เช่าโดยเน้นคนต่างชาติมาเช่าพื้นที่ โดยเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งหากสามารถทำได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยได้


นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังมีความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหนี้เอ็นพีแอลที่มีมากถึง 2 แสนล้านบาท โดยที่ครัวเรือนจะเกิดจากปัญหาเป็นหนี้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต ซึ่งหนี้เหล่านี้มีมากถึง 90% ของจีดีพี ถือว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น กระทรวงการคลังจะมีการหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาหนี้เอ็นพีแอลที่เกิดจากหนี้ภาคครัวเรือนให้น้อยลง ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนคนที่จะมีความเข้าใจมากสุด คือ คนที่ปล่อยสินเชื่อ เพราะจะรู้ดีว่าหนี้แต่ละรายที่เกิดขึ้นจะมีการผ่อนปรนอย่างไร หากสามารถดำเนินการได้ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้

ส่วนความคืบหน้ากองทุนวายุภักษ์ ในส่วนของกระทรวงการคลัง จะใช้กองทุนเดิม โดยจะเพิ่มกองทุนเงินกองทุน 1-1.5 แสนล้าบบาท คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะเริ่มดำเนินการได้

“การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผูกติดกับเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีเศรษฐกิจวันนี้ไม่ดีมานานแล้วและแย่ลงโตลงแบบขั้นบันได แต่โดยรวมประเทศไทยมีภูมิประเทศดีกว่าหลายภูมิภาคพื้นที่ของไทยมากกว่า 300 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ในการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมหากประเทศรอบของไทยไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลางญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศยังมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพอย่างเหมาะสมที่จะเข้ามาทำการค้าและการลงทุนดังนั้นถ้าอยู่ที่การจัดการโดยเฉพาะปัญหาด้านโครงสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุ 25-40 ปีที่จะต้องเสริมความรู้เพิ่มทักษะรองรับที่หลายประเทศจะเข้ามาทำการลงทุนในไทยเพิ่มในอนาคต” นายพิชัย กล่าว


นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าวว่า คนที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถ้าที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างล้านบาทต้นๆจะมีคนทำธุรกิจนี้น้อยมาก เพราะทำมาแล้วไม่คุ้มทุน และสิ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กังวลเมื่อทำมาแล้ว ผู้ซื้อกู้ไม่ผ่านคนทำธุรกิจต้องรับผิดชอบ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อยพอสมควร และมองว่าหากภาครัฐ โดยเฉพาะการเคหะแห่งชาติจะเข้ามาดูแลนำที่อยู่อาศัยที่การเคหะดูแลอยู่มาทำการให้เช่าให้ผู้มีรายได้น้อยจะถือเป็นเรื่องดี

นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ยอมรับว่าแย่ลงเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจคนไม่มีกำลังซื้อเกิดจากปัญหานี้ครูเดินเยอะแต่ก็คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะโตขึ้นสองถึง 2.5% ก็น่าจะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดีขึ้นมาบ้าง โดยทางแสนสิริจะไม่พูดถึงเรื่องการเช่า 99 ปี เพราะจะถูกตำหนิ แต่ในฐานะที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบ 40 ปี โดยธุรกิจของกลุ่มยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี ซึ่งจะเน้นการพัฒนาคุณภาพระดับสูง ควบคู่กับการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับบนเป็นหลัก

ผศ. ดร.เกษรา รัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางเสนาจะเน้นทำบ้านที่อยู่อาศัยในระดับคนชั้นกลาง ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาทางเสนาฯ มีพันธมิตรที่ดี สามารถทำบ้านที่อยู่อาศัยและตอบโจทย์กับลูกค้าโดยเฉพาะนำโครงการบ้านประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกบ้านในการประหยัดค่าใช้จ่าย

นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ เอนโก้ กล่าวว่า ในปีนี้ เอนโก้ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริหารจัดการอาคารสถานที่ได้ดำเนินงานมาจนครบ 20 ปีบริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในวาระสำคัญต่างๆมากมาย รวมทั้งการจัดงานสัมมนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จัด ขึ้นในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยเป็นการเปิดเวทีใหผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อวงการ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในอนาคต”

“สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจของเอนโก้ในปัจจุบัน เราดำเนินธุรกิจที่หลากหลายทั้งด้านบริหารอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริหารจัดการอาคารสถานที่ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่ และกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เอนโก้ มีการปรับตัวสอดคล้องตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ ผ่านกลยุทธ์ B2CS ประกอบด้วย B – Beyond แสวงหาโอกาสในการขยายการเติบโต, C-Cooperation ร่วมมือกับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีศักยภาพ, C – Compettiveness เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการพัฒนาศักภาพภายใน, S – Speed ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการส่งมอบสินค้า และบริการให้แก่ลูกค้าได้ตรงตามกำหนดเวลา และ S – Sustainable Way ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งการดูแลสังคม ชุมชน และ สิ่งแวดล้อม

“เอนโก้ คาดการณ์รายได้ภายในปี 2570 จะต้องมากกว่า 3,000 ล้านบาทพร้อมเป้าหมายในระยะสั้น จะต้องมีผลตอบแทนจากสินทรัพย์อย่างน้อยร้อยละ 5 ต่อปี และตั้งเป้าหมายแบ่งสัดส่วนกำไรสนับสนุนสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม อย่างน้อยร้อยละ 1 ของกำไรสุทธิต่อปี นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าหมายในระยะยาว โดยคาดการณ์ว่าจะต้องมีกำไรสุทธิมากกว่า 800 ล้านบาท ภายในปี 2573 ที่จะเป็นผลมาจากการดำเนิน ธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่แล้ว และมองหาโอกาสในการดำเนินธุรกิจใหม่ที่สอดคล้องกับกลุ่ม ปตท.อาทิ การร่วมกับบริษัทในกลุ่ม ปตท.นำธุรกิจปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์มาประยุกต์ใช้ภายในพื้นที่เอนโก้ บริหารจัดการ รวมทั้ง ค้นหาโอกาสในการลงทุนในโครงการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเอนโก้ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาอีกหลากหลายโครงการ ทั้งโครงการในรูปแบบของโครงการร่วมทุน และโครงการที่พัฒนาพื้นที่ที่เอนโก้ หรือบริษัทในกลุ่ม ปตท.เป็นเจ้าของพื้นที่อยู่แล้ว ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รองรับการขยายธุรกิจของทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเอนโก้ในด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริหารจัดการอาคารสถานที่เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายศิรศักดิ์ กล่าว.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]