ธปท.แนะวิธีแก้หนี้เกษตรอีสานอย่างไรให้ยั่งยืน

ขอนแก่น 9 ก.ค.- ผู้ว่าการ ธปท. แนะวิธีแก้หนี้เกษตรอีสาน อย่างไรให้ยั่งยืนต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่จะร่วมมือกันป้องกันไม่ให้การก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นไปพร้อมกับลดหนี้เก่าแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงค่าครองชีพสูง แต่รายได้ต่ำกว่ารายจ่าย หากไม่เร่งแก้ทั้งระบบปัญหาหนี้ทุกภาคจะไม่ลดลง โดยเฉพาะหนี้เกษตรกรอีสานน่าห่วง


ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนาประจำปี 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในหัวข้อ “แก้หนี้เกษตรอีสาน อย่างไรให้ยั่งยืน” ว่า โดยหนี้เกษตรกรภาคอีสานถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะภาคอีสานเป็นพื้นที่เพาะปลูกด้านการเกษตรเพียงปีละ 1-2 ครั้ง และเป็นครัวเรือนที่พึ่งพาแหล่งเงินช่วยเหลือในช่องทางต่างๆ มากพอควร ดังนั้น หากจะแก้หนี้ภาคครัวเรือนให้ต่ำลงทุกหน่วยงานจะต้องร่วมมือวางแนวทางให้สอดคล้องกัน เพราะหากดูสัดส่วนหนี้ของไทยมีมากถึง 91% ของจีดีพี ถือว่ามากพอควรและยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งการลดหนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เพราะหนี้ที่เกิดขึ้นมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ค่าครองชีพในด้านต่างๆ ทั้งอาหาร สินค้าและอื่น ๆ มีแต่สูงขึ้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อไม่ได้สูงเท่าที่ควร แต่ค่าครองชีพกลับไม่ได้ลดลง ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายของภาคครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม ธปท.แม้จะไม่ใช่หน่วยงานหลักในการแก้ไขหนี้ แต่ที่ผ่านมาพยายามดูการให้สินเชื่อใหม่เข้าสู่ระบบให้ได้เต็มที่ โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอสเอ็มอีตั้งแต่จากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ แต่ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นที่ตัวขึ้น ทำให้การปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบธุรกิจของสถาบันการเงินขณะนี้อย่างเข้าไม่ได้เต็มที่ แต่ ธปท.ต้องขอขอบคุณกระทรวงการคลังที่เข้ามาช่วยเหลือให้สถาบันการเงินของรัฐบางแห่งเข้ามาค้ำประกันสินเชื่อใหม่ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเดินหน้าทำธุรกิจต่อไปได้


Screenshot

นอกจากนี้ การแก้ไขสัดส่วนหนี้ทั้งระบบที่มีอยู่ในบางประเทศสามารถลดหนี้ลงมาได้ แต่ของไทยหากจะลดหนี้จะต้องปรับรายได้ให้สอดคล้องกับรายจ่าย แม้สัดส่วนหนี้ของไทยจะมีมากถึง 91 % ของจีดีพี หากรายได้กลับมาโตอย่างยั่งยืนก็เชื่อว่าสัดส่วนหนี้ของไทยจะลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงหนี้ภาคครัวเรือนโดยเฉพาะภาคอีสานนั้นถือว่ามีมากพอสมควร โดยเห็นได้ชัด 10 ปีที่ผ่านมารายได้ต่อคนจากการทำงานอยู่ที่ 12,000 บาท แต่รายจ่ายต่อคนอยู่ที่ 15,000 บาทจนถึงขณะนี้รายจ่ายห่กจากรายได้มากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป ทำให้ครัวเรือนภาคอีสานมีหนี้มากกว่ารายได้ถือว่าน่าเป็นห่วงอย่างมาก แม้หลายฝ่ายพยายามแก้หนี้ค้างเก่าได้ แต่รายได้ยังไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ดังนั้น หนทางแก้ไขหนี้จะต้องทำให้รายจ่ายและรายได้สอดคล้องกันและจะต้องทำให้ครบวงจร

“ธปท.มองว่าการแก้ไขหนี้ทั้งระบบจะต้องดูไม่ให้ค่าครองชีพและเงินเฟ้อสูงเกินไป โดย 3 แนวทางการเงิน สู่ความกินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืน 1.ดูแลรายจ่าย ดูแลเสถียรภาพราคา ไม่ให้เงินเฟ้อและค่าครองชีพสูงเกินไป 2.ดูแลให้รายได้โตอย่างยั่งยืน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและสร้างโอกาส และ 3.แก้ปัญหาหนี้สิน มาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม จึงต้องให้ความสำคัญกับทุกด้าน ไม่ใช่แค่การแก้หนี้เพียงอย่างเดียว โดยครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบมากสุดจะอยู่ที่ครัวเรือนรากหญ้า เพราะไม่มีสินทรัพย์เพียงพอ ดังนั้น การแก้ไขหนี้จะต้องทำทุกด้านให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน แม้จะขอความร่วมมือกับสถาบันการเงินให้ช่วยผ่อนผันหนี้และปล่อยสินเชื่อใหม่ให้เอสเอ็มอี แต่จะเป็นมาตรการระยะสั้นๆเท่านั้น ดังนั้น จะต้องแก้ไขในด้านโครงสร้างทั้งระบบให้มีความเข้มแข็ง ” ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าว

ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวว่า จากตัวเลขรายได้ของเกษตรกรภาคอีสานต่อครัวเรือนจะอยู่ที่ 160,000-180,000 บาทต่อปี หรือต่อเดือนเฉลี่ยต่ำกว่า 10,000 บาท แต่หากดูรายจ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือนนั้นจะสูงกว่ารายได้ค่อนข้างมาก ทำให้หนี้สินภาคครัวเรือนของภาคอีสานจึงมีมากกว่าภาคภาคอื่น และที่สำคัญรายจ่ายของภาคครัวเรือนส่วนใหญ่ไปเน้นจ่ายไปที่จ่ายเงินกู้ที่ยืมมาทั้งในระบบและนอกระบบ จ่ายจากการเสี่ยงโชคหรือการเล่นหวย จ่ายในการเล่นแชร์และจ่ายอื่นๆ ขณะที่รายได้ของครัวเรือนภาคอีสานจะมาจากการเพาะปลูกข้าวหรือรอแหล่งเงินช่วยเหลือจากส่วนราชการบางปีได้มากบางปีได้น้อย ไม่เพียงพอต่อการครองชีพและไม่สอดคล้องควรให้แหล่งเงินเข้ามาเสริมด้านโครงสร้างการผลิตเพื่อให้ภาคครัวเรือนมีรายได้กลับมาอย่างยั่งยืน ดังนั้น หากจะให้หนี้ครัวเรือนอีสานลดลงจะต้องกลับมาพัฒนาโครงสร้างในด้านต่างๆให้สอดคล้องกับภาคอีสานอย่างแท้จริง


ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป่วย อิ้งภากรณ์กล่าวว่า หนี้เกษตรกรภาคอีสานปัจจุบัน ไม่ใช่เฉพาะภาคอีสานเท่านั้น โดยหนี้เกษตรกรส่วนใหญ่กว่า 90 % มีหนี้กันทั้งสิ้น จากข้อมูล ธกส หนี้เกษตรกรค่าเฉลี่ยโตเร็วต่อรายเกิน 500,000 บาท แม้จะลดลง แต่ก็ก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นไม่ค่อยลดลง และจะติดกับดักหนี้ทำให้เข้าถึงสินเชื่อลำบากขึ้นจนต้องไปหาแหล่เงินกู้นอกระบบแทนและสิ่งที่เป็นปัญหาอีกด้านหนึ่ง คือ ระบบข้อมูลฐานรากของแต่ละหน่วยงานปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้ไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงของเกษตรกรแต่ละรายที่ก่อหนี้ไว้มีทั้งหนี้เก่าและหนี้ใหม่เกิดขึ้นจนกลายเป็นหนี้ก้อนโตที่ไม่สามารถจะชำระหนี้เหล่านี้ได้หมดหรือจ่ายก็จ่ายเพียงดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม หากจะให้แก้หนี้ให้กลับมายั่งยืนได้ทุกฝ่ายทั้งธนาคารรัฐ เกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาวางระบบให้เป็นระบบเดียวกัน เพราะแนวทางการพักหนี้ถือว่าไม่ใช่เป็นการแก้หนี้ระยะยาว หากดูในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาภาครัฐใช้นโยบายพักหนี้เกษตกรต่อเนื่อง แต่ผลที่ได้เกษตรกรส่วนใหญ่หนี้ไม่ได้ลดลงแต่กลับมีหนี้สินเพิ่มขึ้น

นายจักรพงษ์ เมษพันธุ์ โค้ชหนุ่ม Money Coach กล่าวว่า แนวทางการพักชำระหนี้แม้ดูจะเป็นเรื่องดี แต่หนี้จะไม่ลดลงและเป็นภาระเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้ของเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่แน่นอนและไม่เพียงพอต่อคนในครอบครัวและยังไม่เข้าใจหลังลดหนี้บ้างแล้วควรจัดระบบการใช้จ่ายต่อครัวเรือนอย่างถูกต้องได้อย่างไรและควรวางแผนการใช้เงินอย่างถูกต้อง เพราะเกษตรกรมักจะได้เงินมาเป็นก้อนใหญ่ แต่เวลาใช้จ่ายออกไปแทนที่จะทยอยการใช้เงินในแต่ละเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จะใช้ที่เดียวหมดทำให้ไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ยืมได้ จึงเป็นหนี้ที่ไม่ลดลง

นายพสธร หมุยเฮบัว เกษตรกร ผู้ใหญ่บ้านโนนสำราญ นักพัฒนากล่าวว่า มีหนี้กับธนาคารของรัฐ กู้ทำนา ผ่อนจ่าย 10 ปี แต่จ่ายแล้ว 3 ปี โดยตนเป็นนักพัฒนาและต่อยอดจะนำเงินกู้มาพัฒนาก่รทำนาแบบประหยัดผ่านนำระบบประหยัดและใช้พลังงานทดแทนมาควบคู่กับการทำนาเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและลดค่าใช้จ่ายจนสามารถชำระหนี้ที่กู้ยืมมาลดน้องลงและหมดไป แต่บางพื้นที่เกษตรกรมักจะขอสินเชื่อกู้ไม่ได้มาต่อยอดการเกษตรแต่นำมาต่อเติมบ้านและซื้ออื่นๆจนทำให้ไม่สามารถชำระคืนหนี้กับธนาคารได้จนกลายเป็นหนี้มากกว่ารายจ่าย.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]