นนทบุรี 21 มิ.ย. – อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ และภาคีเครือข่าย ประกาศปรับขึ้นค่าบริการอีก 9% ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาสินค้าจากผลกระทบดังกล่าว พร้อมจับตา 18 หมวดสินค้าใกล้ชิด ย้ำกลุ่มใดกระทบจริงส่งให้พิจารณา แต่กรมฯ เดินหน้าขอความร่วมมือตรึงสินค้าให้นานไว้ก่อน เชื่อจากภาวะอากาศฝนตกชุกพืชผักมีราคาทรงมากแล้ว
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่ายประกาศปรับขึ้นค่าบริการอีก 9% ในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) จากผลกระทบต้องแบกรับภาระต้นทุนด้านน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นต่อเนื่องว่า กรมฯ มีการติดตามดูราคาค้าสินค้าอุปโภคและบริโภคโดยเฉพาะ 18 กลุ่มสินค้าอย่างใกล้ชิด แม้ว่าต้นทุนขนส่งจะปรับสูงขึ้นตามพลังงานปรับขึ้นก็ตาม โดยการตรวจเช็คแต่ละกลุ่มสินค้ามีการติดตามและวิเคราะห์ต้นทุนอย่างใกล้ชิดแล้ว
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในไม่นิ่งนอนใจมีการติดตาม แม้ค่าขนส่งจะปรับเพิ่มขึ้นตามข้อเรียกร้องสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย แต่ไม่ใช่สินค้าทุกรายการสินค้าจะปรับเพิ่มขึ้น เพราะการขนส่งในแต่ละชนิดมีการขนส่งที่ปริมาณน้ำหนักไม่เท่ากัน และเท่าที่ได้ยินมายังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอปรับขึ้นราคาสินค้ามายังกรมการค้าภายในแต่อย่างใด โดยที่ผ่านมากรมฯได้ขอความร่วมมือช่วยกันตรึงราคาสินค้าใน 18 หมวด ที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้นานที่สุด แต่หากรายไหนไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนต่อไปได้ก็ให้เสนอมาที่กรมการค้าภายในเพื่อวิเคราะห์ต้นทุนให้ ซึ่งกรมฯ มีสูตรการคำนวณของต้นทุนสินค้าแต่ละประเภทชัดเจนอยู่แล้ว หากเห็นว่าผู้ประกอบการรายใดยังสามารถแบกรับภาระก็จะขอให้ตรึงสินค้าเพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชนต่อไปก่อน
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่ค่าขนส่งเท่านั้น ในส่วนของการติดตามราคาก๊าซหุงต้นที่จะหมดภาระของภาครัฐที่ขอตรึงไว้จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ก็เชื่อว่าภาพรวมจะไม่กระทบต่อสินค้าอาหารทั้งระบบมากนัก เนื่องจากสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลง ฝนตกชุก ทำให้กลุ่มสินค้าไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู ปลา ผักชนิดต่างๆ เริ่มมีราคาที่ลดลงกว่าช่วงที่ผ่านมา จึงเชื่อน่าจะไม่ทำให้ต้นทุนสินค้าอาหารแพงไปมากกว่านี้ ยกเว้นสินค้าไก่ ที่มีราคาแพงขึ้นมาบ้าง แต่ได้มีการติดตามและเรียกทั้งผู้เลี้ยงไก่ เอกชน และห้างสรรพสินค้ามาทำความเข้าใจแล้วไม่ควรที่จะปรับราคาสินค้าไก่แพงจนเกินไป และขณะกรมฯ ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมการค้าภายในไปตรวจสอบห้างสรรพสินค้าทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแล้ว หากรายใดยังขายสินค้าที่แพงเกินจริงจะใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการไปดำเนินการกับผู้ที่โกงราคาสินค้าไก่อย่างจริงจัง รวมทั้งยังจะติดตามโดยเฉพาะอาหารจานด่วนก็ไม่ควรที่จะปรับเพิ่มไปมาก เพราะขณะนี้วัตถุดิบหลายอย่างปรับลดราคาลงค่อนข้างเยอะ ทั้งผัก และเนื้อหมู ซึ่งแต่ละร้านอาหาร จะมีวิธีการจัดการวัตถุดิบ.-514-สำนักข่าวไทย
