fbpx

ตลท.จัดสัมมนา “SET Sustainability Forum 2/2024

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนา SET Sustainability Forum 2/2024 หัวข้อ “Scaling up Synergies and Solutions for Net-Zero” เปิด​มุมมองเสริมกลยุทธ์​พัฒนา Ecosystem ความยั่งยืน พร้อมแนะให้เอกชนไทยเร่งมุ่งสู่ Net Zero


ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดย SET ESG Academy จัดสัมมนา SET Sustainability Forum ครั้งที่ 2 ของปี 2567 หัวข้อ ‘Scaling up Synergies and Solutions for Net-Zero’ นำภาครัฐ ภาคธุรกิจและตลาดทุน ทั้งไทยต่างประเทศ เสนอมุมมองและแนวทางการมีส่วนร่วมพัฒนาภาคธุรกิจไทยตลอดทั้ง Supply Chain ให้เติบโตแข็งแกร่งรับมือความไม่แน่นอน เร่งขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยกระดับคุณภาพข้อมูล ESG ตามมาตรฐานสากล ตลอดจนผลักดันศักยภาพของภาคธุรกิจไทยให้ทัดเทียมสากลและยืนหยัดในเวทีโลกอย่างยั่งยืน

ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในยุคแห่งความไม่แน่นอน องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจไทยเติบโตอย่างมั่นคงคือ โครงสร้างการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ครอบคลุมทุกมิติ เหมาะกับองค์กรและเท่าทันปัจจุบัน (Greater Governance) เพื่อยืนหยัดท่ามกลางความผันผวนรอบด้าน และความสามารถในการรับมือความไม่แน่นอน (Resilience) เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ในอนาคต โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และภาคส่วนต่าง ๆ ผนึกพลังเตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านเพื่อรับมือความเสี่ยงจากภาวะโลกเดือด และยกระดับคุณภาพของข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูล ESG เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของข้อมูล สร้างความน่าเชื่อถือกับธุรกิจ เพิ่มศักยภาพของธุรกิจไทย และตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนทั่วโลกในระยะยาว สอดรับการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังจะก้าวสู่ปีที่ 50 มุ่งสร้างอนาคต เพื่อโอกาสของทุกคน


ผู้​บรรยายพิเศษ​ของ​งานสัมมนา​คือ​ ผู้​เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) นายเจมส์ กราเบิร์ต Director – Mitigation Division กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)

ทั้งนี้​การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่อความเป็นอยู่ที่ดีและสังคมของมนุษย์ โดยความพยายามที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจังเริ่มต้นขึ้นจากการที่รัฐภาคีรับรองพิธีสารเกียวโต ในปี ค.ศ.1997 ซึ่งมีสาระสำคัญคือ ประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นผู้นำในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งมีการกำหนดกฎการดำเนินงานของพิธีสารเกียวโต (Rules for the Implementation) ใน 2 ระยะ คือ พันธกรณีระยะที่ 1 (Marrakesh Accord) ให้ประเทศพัฒนาแล้วจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง ร้อยละ 5 ภายในปี ค.ศ. 2012 เมื่อเทียบกับปี 1990

พันธกรณีระยะที่ 2 (Doha Amendment) ให้ประเทศพัฒนาแล้วจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง ร้อยละ 18 ภายในปี ค.ศ. 2020 เมื่อเทียบกับปี ค.ศ. 1990 ซึ่งเป็นภาคบังคับเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วเนื่องจากมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมากในขณะนั้น ส่วนประเทศกำลังพัฒนาไม่มีพันธกรณีในการลดก๊าซเรือนกระจกโดยตรง แต่ดำเนินการได้ตามความสมัครใจโดยการจัดส่งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศ (Nationally Appropriate Mitigation Actions: NAMAs) รวมถึงได้กำหนดกลไกยืดหยุ่นให้ประเทศพัฒนาแล้วสามารถซื้อคาร์บอนเครดิตได้ ผ่านกลไก Clean Development Mechanism (CDM)


พิธีสารเกียวโตได้นำเสนอกลไก 3 ประการเพื่อบรรลุเป้าหมายได้แก่ กลไกการพัฒนาที่สะอาด (CDM) การดำเนินการร่วม (JI) และ การซื้อขายก๊าซเรือนกระจก (ET)

สำหรับกลไกการพัฒนาที่สะอาด (CDM) อนุญาตให้ประเทศที่มีความมุ่งมั่นภายใต้พิธีสารเกียวโตลงทุนในโครงการลดการปล่อยมลพิษในประเทศกำลังพัฒนา โดยเป็นการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศกำลังพัฒนาและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนทำให้ประเทศอุตสาหกรรมบรรลุข้อผูกพันในการลดการปล่อยมลพิษภายใต้พิธีสารเกียวโต

CDM เป็นตัวอย่างที่สำคัญของการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยในการดำเนินโครงการสามารถสร้างและรับเครดิตคาร์บอน (CERS) ระหว่างประเทศซึ่งการคิดปริมาณคาร์บอนเครดิตคำนวณจากหน่วยปริมาณก๊าซที่ลดได้และต้องได้รับการรับรอง

สำหรับกลไกการใช้งานร่วม เปิดโอกาสให้กลุ่มภาคีดำเนินโครงการต่างๆ ร่วมกันเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรูปแบบต่างๆ โดยจะมีการคิดคาร์บอนเครดิตให้ผู้ดำเนินการเป็นหน่วยปริมาณก๊าซที่สามารถลดได้ (Emission Reduction Units – ERUs) ส่วนการซื้อขายก๊าซเรือนกระจก โดยตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต 2 ประเภทคือ 1) ตลาดคาร์บอนภาคบังคับ (Mandatory carbon market) รัฐบาลออกกฎหมายและกำกับดูแลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยผู้ที่สามารถปฏิบัติตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จะสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ หรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับการบัญญัติกฎหมาย กลุ่มประเทศที่ใช้ตลาดคาร์บอนภาคบังคับ เช่น สหภาพยุโรป EU Emissions Tracing System (EU-ETS) หรือ Australian Carbon Pollution Reduction Scheme ของประเทศออสเตรเลียและ Regional Greenhouse GAS Initiative ของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

2.) ตลาดคาร์บอนแบบภาคสมัครใจ (Voluntary carbon market) สร้างขึ้นโดยไม่ได้มีกฎหมายที่เกี่ยวกับการควบคุมก๊าซเรือนกระจกมาบังคับ การจัดตั้งตลาดเกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของผู้ประกอบการหรือองค์กร เพื่อเข้าร่วมซื้อขายคาร์บอนเครดิตในตลาด

ผู้บรรยายพิเศษอีกหนึ่งคนคือ​ นายเย็นส์ แรดชินสกี​ จากศูนย์ความร่วมมือ UNFCCC/IGES Asia Pacific ร่วมให้มุมมองถึงวิกฤตการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก พร้อมแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์สากล (Science-based) อย่างกลไกตลาดทุนและคาร์บอนเครดิตที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

นายเยนส์ ซึ่ง​เป็นผู้เชี่ยวชาญกลไกตลาดระหว่างประเทศตามความตกลงปารีส (Article 6 of the Paris Agreement) ระบุ​ว่า ภาคเอกชนจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเร่งให้เกิดการแข่งขันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้ (Race to Zero) ภายในปี 2050

ขณะนี้ประเทศต่างๆ ได้สรุปแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศหลังปี 2020 โดยปรับให้เข้ากับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับประเทศ (NDCs : Nationally Determined Contributions) เป็นไปตามความตกลงปารีส มาตรา 6 (Article 6 of the Paris Agreement) ที่มีเป้าหมายในการจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่จะเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม ให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสและพยายามให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส จำกัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ให้อยู่ในระดับเดียวกับที่ต้นไม้ ดิน และมหาสมุทรสามารถดูดซับได้ โดยจะเริ่มในช่วงเวลาระหว่างปี 2050 และ 2100 ทบทวนการมีส่วนร่วมของแต่ละประเทศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกๆ 5 ปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดความพยายามยิ่งขึ้นเปิดโอกาสให้ประเทศร่ำรวยสามารถช่วยเหลือประเทศที่ฐานะด้อยกว่าได้ ผ่าน “เงินทุนสนับสนุนด้านภูมิอากาศ” เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และหันไปใช้พลังงานทดแทน

ภารกิจดังกล่าว ยิ่งใหญ่มาก การจะบรรลุข้อตกลงปารีสหมายถึง การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกประมาณ 45% ภายในปี 2030 จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของเศรษฐกิจซึ่งภาคเอกชนจำเป็นต้องมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ ผ่านการกำหนดเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญที่สุดของโลกในขณะนี้ ดังนั้นการสนับสนุนภาคธุรกิจในการดำเนินการด้านสภาพอากาศจะเป็นการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจเองและหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

การสัมมนามุ่งเน้นการแลก​เปลี่ยน​แนวทางของทั้งภาครัฐ หน่วยงานกำกับ ตลาดทุนในการสนับสนุนเอกชนไทยให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางสากลสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการบรรยายพิเศษ โดย ดร. สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เรื่องการสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงแหล่งทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจผ่าน Sustainability Initiatives ต่าง ๆ และการเอากลไกหรือเครื่องมือทางการเงินเช่นการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้กลุ่มความยั่งยืนมาใช้เพื่อปรับตัวรับโอกาสทางธุรกิจ และเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืนพร้อมสู้วิกฤติและความเปลี่ยนแปลง ในอนาคต.​ -512​ -​สำนักข่าว​ไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ไทยเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีกระลอก

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน