กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจฟุตบอลยูโร 2024 ตลอด 1 เดือน จะมีการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ 20,575 ล้านบาท รวมทั้งมีการใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ หรือจากการเดิมพันพนันบอล 67,044 ล้านบาท มีผลดีต่อเศรษฐกิจไทยเนื่องจากมีการจัดกิจกรรมส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาหารและบันเทิง รวมถึงการใช้จ่ายนอกระบบ ขณะที่โครงการสลากเกษียณจะช่วยให้ประชาชนทั่วไปสามารถและเข้ามีเงินออมได้แต่ต้องดูศึกษาเงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ของประชาชนให้รอบคอบ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่าในช่วงฟุตบอลยูโร 2024 จะมีการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ 20,575 ล้านบาท รวมทั้งมีการใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ หรือจากการเดิมพันพนันบอล 67,044 ล้านบาท เมื่อรวมกันทั้งในและนอกระบบช่วงยูโร 2024 จะสร้างเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไทย 87,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงฟุตบอลยูโร จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่าส่วนใหญ่จะใช้จ่ายมากกว่ายูโรครั้งก่อน โดยกิจกรรมที่มีการใช้จ่ายมากที่สุดคือการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เฉลี่ยประมาณ 3,700 บาทต่อคน การทานอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านอาหารประมาณ 4,497 บาท ต่อคน และการซื้อสินค้าของที่ระลึกทีมบอล 2,475 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมการเล่นพนันบอลเพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่าง 35.6% บอกว่าตัวเองจะเล่นพนันบอล ส่วนใหญ่พนันเป็นเงินสด โดยเฉลี่ยใช้เงินประมาณ 2,000 บาทต่อนัด หรือเฉลี่ยคนละ 23,574 บาทตลอดฤดูกาล ทีมที่คนไทยส่วนใหญ่เชียร์ 3 อันดับแรก คือ อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส
ส่วนโครงการสลากเกษียณ นายธนวรรธน์ พลวิชัย มองว่าถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยให้คนไทยออมเงินได้จริง แต่ต้องศึกษาเงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ของประชาชนให้รอบคอบ รวมถึงการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สลากออมทรัพย์ เป็นการออมเงินเพื่อดูแลให้ประชาชนมีเงินเมื่อเกษียณอายุ ซึ่งเป็นหลักการที่ดี จูงใจให้คนออม และมีโอกาสได้รางวัลในแต่ละงวด โดยเงินออมยังคงมีอยู่ ได้ดอกเบี้ยไม่สูง แต่ต้องดูเงื่อนไขรายละเอียดจากนี้ว่าจะออกมาอย่างไร โดยปัจจุบันประเทศไทยก็มีสลากออมเงินอยู่แล้ว ทั้งสลากออมสิน สลากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือสลาก ธ.ก.ส. สลากธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ซึ่งไม่ได้เป็นการมอมเมาประชาชนอะไร เพราะเป็นการส่งเสริมการออมเช่นกัน แต่ในรายละเอียดก็ต้องไปพิจารณาให้รอบคอบทุกด้านทุกมุมทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ส่วนความกังวลของผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งของรัฐบาลที่คาดว่าจะเข้ามาแย่งตลาดของสลากกินแบ่งรัฐบาล มองว่า โครงการสลากเกษียณเป็นโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อให้คนหันมาให้ความสนใจการออมมากขึ้น ซึ่งเป็นคนละจุดประสงค์กับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้นมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับยอดขายของสลากในแต่ละงวด. -514-สำนักข่าวไทย