กรุงเทพฯ 20 ส.ค.-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุ
แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคชาวรัสเซียหันไปพึ่งพาอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของสินค้าไทยที่จะเพิ่มช่องทางการตลาดได้
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า
จากรายงานสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก
ถึงแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคชาวรัสเซียในการรับประทานอาหารปี 2559 พบว่า ผู้บริโภครัสเซียหันมาพึ่งพาอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีความใส่ใจในสุขภาพ โดยบริโภคอาหารที่มีน้ำตาล เกลือ
และสารสังเคราะห์ปรุงแต่งน้อยลง ทั้งนี้ ผลการสํารวจของรัสเซียในปี 2559 ระบุว่า ร้อยละ 27
ของผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อยหรือปราศจากน้ำตาล เพิ่มขึ้นจากร้อยละ
22 ในปีก่อนหน้า ร้อยละ 17
ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีเกลือน้อยหรือปราศจากเกลือ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 13 ในปีก่อนหน้า) และร้อยละ 57
ต้องการอาหารที่มีส่วนผสมสารสังเคราะห์น้อยหรือไม่มีเลย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ
49 ในปีก่อนหน้า
นายกิตตินันท์ ยิ่งเจริญ
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก กล่าวว่า
หากสามารถรับค่าใช้จ่ายได้
ผู้บริโภครัสเซียจํานวนมากเลือกออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน
แต่เนื่องจากทุกวันนี้ราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น ทําให้มีโอกาสรับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลง
ซึ่งการเลือกร้านอาหารขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านราคามากที่สุด รองลงมาได้แก่
ปัจจัยด้านทำเล รสชาติอาหาร การให้บริการ
รวมถึงการทดลองร้านอาหารเปิดใหม่ตามที่ได้รับการแนะนำ
สำหรับมูลค่าการค้าไทย-รัสเซียและกลุ่มซีไอเอส การส่งออกครึ่งปีแรก
(มกราคม – มิถุนายน 2560)
มีมูลค่า 528 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 55.46
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่
รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ
เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขณะที่การนำเข้ามูลค่า 1,374 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.64 สินค้านำเข้าสำคัญ
ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์-สำนักข่าวไทย