ทำเนียบฯ 28 พ.ค. – ครม. คุมเข้มโรงกลั่นบี 100 รับซื้อปาล์มดิบจากชาวสวนเพิ่ม 50 สตางค์/ลิตร หลังเงินหายไปอยู่ในมือนายทุน 3 พันล้านบาท กำชับ 3 กระทรวงหลัก เตรียมออกมาตรการเชือดเอกชน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. สั่งการให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันดูแลปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ หลังชาวสวนปาล์มน้ำมันดิบ ขายได้ในราคาเพียง 4.8 บาท/กิโลกรัม ช่วงที่ผ่านมากระทรวงพลังงาน เข้าแทรกแซงราคาผ่านกองทุนน้ำมันฯ เพื่อนำน้ำมันปาล์มไปใช้ผลิตไบโอดีเซล (บี7)
ปัจจุบันไทยใช้น้ำมันไอโอดีเซล บี100 เพื่อผลิตดีเซล บี7 จำนวน 4.8 ล้านลิตรต่อวัน โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบ 1 ล้านตันต่อปี ใช้ปาล์มดิบ 6 ล้านตันต่อปี การดูแลกำหนดให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม ผลิตไบโอดีเซล 100 ได้รับเงินชดเชย 20 บาทต่อลิตร ต้องไปรับซื้อปาล์มดิบจากชาวสวน ในราคาอ้างอิง แต่กลับไปรับซื้อต่ำกว่าราคาอ้างอิง 2.9 บาท/ลิตร จึงทำให้เงินหายไปอยู่ในมือนายทุน 3,000 ล้านบาท นับว่าเอาเปรียบชาวสวน เพราะรับซื้อต่ำกว่าราคาอ้างอิงและอาศัยมีกำไรจากเงินชดเชยของรัฐบาล
ครม. จึงกำชับให้ 3 กระทรวงหลัก ประกอบด้วย กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ คุมเข้มการดูแลน้ำมันปาล์มดิบอย่างครบวงจร เพื่อให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์มรับซื้อจากชาวสวนเพิ่มอีก 50 สตางค์ต่อลิตร เช่น จากราคา 4.80 บาท เพิ่มเป็น 5.30 บาท/ลิตร เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับชาวสวนปาล์ม หากยังไม่รับซื้อตามราคาอ้างอิง ทั้ง 3 กระทรวงหลักเตรียมออกมาตรการเข้ม ดูแลปัญหาดังกล่าว โดยมาตรการชดเชยใช้เวลาดูแล 2 ปี หลังเริ่มในต้นปี 67 หากครบกำหนด อาจต้องทบทวนให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกร.-515-สำนักข่าวไทย