ขสมก. ไม่เห็นด้วย “ไทยสมายล์บัส” วิ่งทับซ้อนเส้นทาง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.-ขสมก. ค้าน “ไทยสมายล์บัส” วิ่งทับซ้อน ชี้กระทบรายได้-แผนปฎิรูป-ประชาชนแบกค่าใช้จ่ายเพิ่ม

จากกรณีบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด (TSB) ขอเพิ่มหรือปรับเส้นทางเดินรถจำนวน 36 เส้นทาง ซึ่งมีความทับซ้อนกับเส้นทางของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั้น นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหาร ขสมก.เพื่อฟังความเห็น และวันที่ 17 พ.ค. ได้ประชุมร่วมกับสหภาพฯ และพนักงาน ขสมก. โดยทั้งหมดมีความเห็นคัดค้าน ที่เอกชนจะมาวิ่งทับเส้นทาง ซึ่งจะรวบรวมข้อมูล ผลกระทบ และความเห็นของทุกฝ่ายเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด ขสมก.) ในวันที่ 30 พ.ค.67 ก่อนตอบกลับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อย่างไรก็ตาม ได้รายงาน รมช.คมนาคม แล้ว ซึ่งได้ให้ ขสมก.ยืนบนหลักการทำหน้าที่บริการประชาชน


การที่เอกชนขอปรับเส้นทางมาทับซ้อน กับ ขสมก. 36 เส้นทาง นั้น จะกระทบต่อการตั้งอยู่ หรือดับไปของ ขสมก.เพราะ 36 เส้นทางเป็นเส้นทางหลัก ที่มีรายได้ และจะกระทบการบริหารจัดการเดินรถตามแผนปฎิรูปรถเมล์ และแผนขับเคลื่อน (แผนฟื้นฟูฯ ขสมก.) ซึ่งทำให้ประชาชนหรือผู้โดยสารได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินการดังกล่าว ได้แก่


1.เดือดร้อนด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูงขึ้น ทำให้ขาดความเท่าเทียมในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่มีรายได้น้อย


2.การทับซ้อนเส้นทางดังกล่าวไม่สอดคล้องกับแผนปฎิรูป ที่มีวัตถุประสงค์ปรับปรุงโครงข่ายเดิมให้เหมาะสมกับการเดินรถในเขตเมืองที่มีการจราจรแออัด ลดความซ้ำซ้อนของเส้นทาง ลดระยะทางให้สั้นลง

    นอกจากนี้ ขสมก.ได้จัดทำโครงการจัดหารถใหม่พลังงานสะอาดเพื่อนำมาให้บริการ ใน 107 เส้นทางตามแผนปฎิรูป ซึ่งภายในปีนี้ อย่างช้าไม่เกินกลางปี 68 จะมีรถเมล์ใหม่ รวมไปถึงการปรับโครงสร้างบุคลากรและด้านอื่นๆ เพื่อปรับปรุงยกระดับการให้บริการ นอกจากนี้ ทางสหภาพฯ ขสมก. ได้มีการประชุมล่าสุด วันที่ 21 พ.ค. 2567 และทำหนังสือยื่นประธานบอร์ด ขสมก.เพื่อคัดค้านการวิ่งทับเส้นทางของเอกชนและขอให้ยึดตามแผนปฎิรูปฯ และต้องไม่ทำอะไรที่กระทบต่อสิทธิ์ของผู้ประกอบการรายอื่น นอกจากนี้จะทำหนังสือยื่นนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านต่อไป

    ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่า เรื่องนี้ ได้มอบหมายให้ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หารือกับ กรมการขนส่งทางบก และทางคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางต้องเข้ามาดูแล ส่วนนโยบายของกระทรวงคมนาคมนั้น ให้ยึดระเบียบและผลประโยชน์ของหน่วยงานรัฐเป็นหลัก กรณีที่เอกชนจะขอเพิ่มเส้นทางจากที่กำหนดไว้ในแผนปฎิรูป ต้องดูว่าระเบียบทำได้หรือไม่ ซึ่งทาง ผอ.ขสมก.ได้มีการประชุมร่วมกับสหภาพฯ ขสมก.และพนักงานทั้งหมดแล้ว และสิ่งที่ต้องตระหนักคือ ขสมก.เป็นหน่วยงานที่ให้บริการประชาชนทุกกลุ่ม ทุกวัย และมีค่าโดยสารเริ่มต้น 8 บาท เป็นรถเมล์ขวัญใจคนจน ส่วนรถไทยสมายล์บัส ประชาชนต้องแบกรับค่าโดยสารเพิ่ม. -513-สำนักข่าวไทย


    ดูข่าวเพิ่มเติม

    Top Viewed • อ่านมากสุด

    ดูทั้งหมด

    จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

    ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

    ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

    Chinese foreign ministry in January 2025

    ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

    ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

    คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

    วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

    ผู้ป่วยเสียชีวิต

    รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

    ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

    ข่าวแนะนำ

    ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

    ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

    แก้ปัญหาฝุ่น

    นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

    นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

    เปิดรับการลงทุน

    นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

    นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

    ช้างหลุดเดินถนน

    ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

    ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ