เสวนา “สานต่อความเท่าเทียมทางเพศจากพัทยาสู่สากล“

ชลบุรี 21 พ.ค.- เวทีเสวนา “สานต่อความเท่าเทียมทางเพศ จากพัทยาสู่สากล“ ระดมความเห็นวางกลยุทธ์สร้างความเท่าเทียมในสังคม ผลักดันพัทยาเป็นจุดหมายนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ ตั้งเป้าการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
 
บรรยากาศเวทีเสวนา ”สานต่อความเท่าเทียมทางเพศจากพัทยาสู่สากล“ เชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหอการค้า สมาคมโรงแรมไทย และผู้ประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นในการผลักดันพื้นที่พัทยาเป็นหนึ่งในเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ทั่วโลกเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) ซึ่งการท่องเที่ยวคือหนึ่งในเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และพร้อมที่จะสร้างความเท่าเทียมในสังคมเทียบเท่าเวทีโลก


นายธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล ประธานหอการค้าชลบุรี กล่าวว่า เศรษฐกิจในพื้นที่ชลบุรียังต้องจับตาเรื่องกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งนี้หอการค้าได้วางกลยุทธ์เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวในพื้นที่ชลบุรีด้วยการยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนพร้อมนำนวัตกรรมมาช่วยในการจัดระบบท่องเที่ยว เช่น รวมการทำทัวร์ เส้นทางท่องเที่ยวเเละที่พักได้ในครั้งเดียว พร้อมอบรมบุคลากรให้มีความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศ ขณะเดียวกันภาคเอกชนพร้อมให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ทั่วโลกได้มีการเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) โดยจังหวัดชลบุรีมีหลายพื้นที่ซึ่งเป็นหมุดหมายสำหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ  ดังนั้นจึงเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตตามที่หอการค้าคาดการณ์ไว้ที่ 2.7%
 
ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council – WTTC) เปิดเผยข้อมูลกลุ่ม LGBTQ+ ที่ชื่นชอบการเดินทางมีสัดส่วนมากกว่า 10% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกและคิดเป็น 16% ของค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด หรือมากกว่า 195 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี และมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าการใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBTQ+ จะสูงถึง 568.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ  19.70 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573

นางสาวมรกต กุลดิลก นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า เมืองพัทยาพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเดินทางท่องเที่ยวบ่อยซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารในเมืองพัทยาให้เติบโตขึ้นได้ และด้วยเสน่ห์ของนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ หากมีความพึงพอใจในการให้บริการก็จะกลับมาใช้บริการซ้ำ ดังนั้นการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมจะเป็นการสร้างความประทับใจและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาใช้บริการมากขึ้น สำหรับการสื่อสารด้านการตลาดเมืองพัทยามีการทำงานร่วมกับสมาคม องค์กรต่างๆ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ โดยเฉพาะการแสดงความเป็นมิตร และการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม รวมถึงทัศนคติของคนในท้องถิ่นต่อนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสิ่งที่เมืองพัทยาให้ความสำคัญและจะช่วยสร้างความมั่นใจรวมถึงการตัดสินใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้


นางสาวพุทธชาด แปงใจ รองประธานฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ครอส โฮเตลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ จำกัด กล่าวว่า ครอสพัทยาโอเชียนเฟียร์ เป็นโรงแรมในเครือ เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกกลุ่มที่เดินทางเข้าพัก และพร้อมสนับสนุนนโยบาย และสร้างความเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ โดยร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นในการสนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เทศกาล Pride Month หรืองานภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังพัฒนาแพ็กเกจท่องเที่ยว และประสบการณ์ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางกลุ่มนี้ เช่น ทัวร์ที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ ประสบการณ์เกี่ยวกับ Nightlife และ Wellness Retreats นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายเรื่องความเท่าเทียม สำหรับสิทธิประโยชน์ของพนักงานทุกกลุ่ม เน้นความเป็นธรรมในการจัดการสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี และส่งผลต่อผู้ใช้บริการเข้าพัก ให้ได้รับการบริการและประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

นายปรมะ องค์กิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หนึ่งในวัฒนธรรมองค์กรที่เซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญคือการเคารพความแตกต่างของทุกคน และให้โอกาสอย่างทั่วถึงกับกลุ่มคนที่หลากหลาย สำหรับเดือนมิถุนายนที่ทั่วโลกได้มีการเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) เซ็นทรัลพัฒนาสนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม ผ่านการจัดกิจกรรมตลอดเดือนที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ สะท้อน 3 เรื่องสำคัญคือ ความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Inclusivity) และ การมีส่วนร่วม (Equality) พร้อมประกาศความภาคภูมิใจ ดันประเทศไทย ให้เป็น Top of Pride Destination ของคนทั่วโลก

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า เคทีซีให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน คำนึงถึง ESG โดยเฉพาะการให้โอกาสและความเท่าเทียมในสังคม รวมทั้งความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality) ทั้งการจ้างงาน การปฏิบัติต่อบุคลากรในองค์กรอย่างเท่าเทียม ซึ่งพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ถือเป็นหนึ่งจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวและรองรับนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงเป็นจังหวัดที่เคทีซีมีฐานสมาชิกและยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากเป็นอันดับ 2 รองจาก กทม.และปริมณฑล โดยยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่จังหวัดชลบุรีสุงสุด ได้แก่ หมวดน้ำมัน หมวดร้านอาหาร และหมวดท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน เคทีซีพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลกที่ต้องมาพร้อมความเท่าเทียม.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]