ก.ล.ต.จ่อรับฟังความคิดเห็น มาตรการใหม่คุม Short selling -Program Trading  

กรุงเทพฯ 11 มี.ค.- ก.ล.ต.จ่อรับฟังความคิดเห็น มาตรการใหม่คุม Short selling -Program Trading  คาดเริ่มทยอยบังคับใช้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ 


นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต.  เปิดเผยถึงความคืบหน้า แนวทางปรับปรุงการกำกับดูแลธุรกรรม Short Selling และ Program Trading หรือ การใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย สำหรับแนวทางปรับปรุงการกำกับดูแลธุรกรรม Short Selling โดยเป้าหมายที่ 1 คือ เพิ่มกลไกสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อขาย  ซึ่งเพิ่มคุณภาพหุ้นที่สามารถ Short Selling (Eligible Securities) โดยเพิ่มเงื่อนไขของหุ้นกลุ่ม Non-SET100  ที่สามารถขายชอร์ตได้ โดยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) จาก 5,000 ล้านบาท เป็น 7,500 ล้านบาท และเพิ่มเกณฑ์สภาพคล่องของหุ้น (turnover) เป็นไม่น้อยกว่า 2%ต่อเดือน   และจะมีการปรับปรุงเกณฑ์ซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ (trading rules) โดยเพิ่มการใช้ราคาขายชอร์ตที่ต้องสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (Uptick Rule) เมื่อราคาหุ้นลดลงตั้งแต่ 10% ขึ้นไปของราคาปิดวันก่อนหน้า 

กำหนดเพดานขายชอร์ตรายหลักทรัพย์รายวัน (daily Short Selling limit) และเปิดเผยยอดขายชอร์ตคงค้างรายวัน (Outstanding short position) 


ส่วนเป้าหมายที่ 2 เพื่อป้องปรามการขายชอร์ตไม่เป็นตามเกณฑ์ (Naked Short Selling)  ดังนี้ 1.เพิ่มคุณภาพการทำหน้าที่ตรวจสอบของตัวกลาง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ทำความรู้จักระบบงานของลูกค้า (Know Your Process: KYP) กรณีลูกค้าที่เป็นตัวกลาง เพื่อให้ลูกค้าทราบ/เข้าใจหลักเกณฑ์ และสื่อสารให้ลูกค้าในชั้นต่อไป  และเพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าตัวกลาง มีระบบควบคุม ติดตามการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าตัวกลาง มีระบบควบคุม รวมถึงพัฒนาระบบกลางให้ บล.ตรวจสอบหลักทรัพย์ได้ 

และยังเพิ่มอัตราโทษ บล.ที่ไม่ทำตามเกณฑ์ให้เทียบเท่าต่างประเทศ เช่น กรณีพบ Naked Short Selling  จะปรับ 3 เท่าของกำไร (ขั้นต่ำ 1 ล้านบาท) กรณีการทำธุรกรรม Short Selling ไม่ทำตามเกณฑ์  จะปรับไม่เกิน 0.3 ล้านบาท.ต่อครั้ง 

2. แก้กฎหมายเพิ่มความรับผิดตลอดสาย  โดยลงโทษ/บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลงทุนที่ไม่ทำตามเกณฑ์ขายชอร์ต และสร้างกลไกที่ทำให้ทราบถึงผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (End-Beneficial Owner) 


3. เพิ่มการทำหน้าที่ผู้เก็บรักษาทรัพย์สิน (Custodian) ในฐานะ Gatekeeper: โดยให้ custodian แจ้งวัตถุประสงค์การโอน เพื่อการสอบยันการทำรายการยืม 

สำหรับแนวทางปรับปรุงการกำกับดูแลการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย (Program Trading) / การส่งคำสั่งด้วยความเร็วสูง (High Frequency Trading : HFT)  เพื่อเพิ่มกลไกสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อขายโดยรวม  มีแนวทางดังนี้ 

1.  ดำเนินการให้สามารถรู้ตัวตนลูกค้าและตรวจสอบได้ ขึ้นทะเบียน (Register) ผู้ลงทุนประเภท HFT  กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อให้สามารถติดตามการซื้อขายของผู้ลงทุน HFT ได้ 

2.  ทบทวนพฤติกรรมไม่เหมาะสม   

2.1  เพิ่มลักษณะคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมให้ครอบคลุมพฤติกรรมการซื้อขายในปัจจุบัน  

2.2  จัดทำระบบกลางคัดกรองคำสั่งไม่เหมาะสม (Central Order Screening)  

2.2  กำหนดระยะเวลาขั้นต่ำของคำสั่งที่เข้ามา ก่อนที่จะสามารถยกเลิกคำสั่งนั้นได้ (Order Resting Time)  เพื่อป้องกันคำสั่งใส่ถอนถี่เกินไป (spoofing) 

3.  ควบคุมความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ : 

3.1  ใช้กลไกการเพิ่มเพดานการเคลื่อนไหวของราคาระหว่างวัน (Dynamic Price Band) นอกเหนือจาก เกณฑ์ราคาสูงสุด-ต่ำสุด (Ceiling and Floor) โดยพักการซื้อขายชั่วคราวถ้าหุ้นมีราคาขึ้นหรือลง 10% ของราคาซื้อขายล่าสุด  

3.2  ใช้วิธีการซื้อขายแบบประมูล (Auction) กรณีหุ้นอยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขาย  

4.  ผู้ลงทุนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม : 

4.1  ทบทวนเกณฑ์การดำเนินการ (sanction) กับลูกค้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 

4.2  ตลท. เปิดเผยรายชื่อลูกค้าที่ส่งคำสั่งไม่เหมาะสมให้ทุก บล. ทราบ เพื่อให้ดำเนินการตามที่กำหนด

นางพรอนงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นมาตรการดังกล่าวได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากบอร์ด ตลท. และมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.พิจารณาเห็นชอบในหลักการณ์แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะมีการดำเนินการเปิดรับฟังความเห็นจากหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่า จะสามารถดำเนินการได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มทยอยมีผลบังคับใช้ในไตรมาส 3 ของปีนี้-517-สำนักข่าวไทย 

อย่างไรก็ตามมองว่าทุกมาตรการที่ออกไปจะมีการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากยังไม่บรรลุผลก็สามารถปรับระดับเกณฑ์เพิ่มขึ้นได้ อาทิ เกณฑ์บริษัทที่เข้าข่าย Short Selling ได้ ซึ่งอาจมีการเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) จาก 7,000 ล้านบาท ไปจนถึงระดับ 10,000 ล้านบาทได้เป็นต้น.-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]