ก.พาณิชย์ ตั้งเป้าส่งออกปี 67 ขยายตัวร้อยละ 1.99

นนทบุรี 26 ม.ค.-การส่งออกของไทย ธ.ค.66 มีมูลค่า 22,791.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ที่ร้อยละ 4.7 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 2.1 ทั้งนี้ การส่งออกไทยปี 2566 หดตัวร้อยละ 1.0 ส่วนปี 67 ก.พาณิชย์ ตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 1.99


นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนธันวาคม และทั้งปี 2566 พร้อมด้วย นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

โดยการส่งออกของไทยในเดือนธันวาคม 2566 มีมูลค่า 22,791.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (795,824 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ที่ร้อยละ 4.7 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 2.1 การส่งออกของไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับหลาย ๆ ประเทศในเอเชีย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนแต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการชะลอลงของภาวะเงินเฟ้อสูง ซึ่งส่งผลดีต่ออุปสงค์และความเชื่อมั่นในการบริโภคของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นอุปสรรคทางการค้าและความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลกยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป ทั้งนี้ การส่งออกไทยปี 2566 หดตัวร้อยละ 1.0 และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 0.6
สำหรับมูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนธันวาคม 2566 การส่งออก มีมูลค่า 22,791.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 4.7 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 21,818.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 3.1 ดุลการค้า เกินดุล 972.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวมของปี 2566 การส่งออก มีมูลค่า 284,561.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
หดตัวร้อยละ 1.0 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 289,754.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 3.8 ดุลการค้า ปี 2566 ขาดดุล 5,192.5 ล้านเหรียญสหรัฐ


มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนธันวาคม 2566 การส่งออก มีมูลค่า 795,824 ล้านบาท ขยายตัว
ร้อยละ 2.2 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 770,822 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 5.3 ดุลการค้า เกินดุล 25,002 ล้านบาท ภาพรวมของปี 2566 การส่งออก มีมูลค่า 9,809,008 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 1.5 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 10,111,934 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 4.3 ดุลการค้า ปี 2566 ขาดดุล 302,926 ล้านบาท

การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 3.2 (YoY) กลับมาหดตัวในรอบ 4 เดือน โดยสินค้าเกษตร หดตัวร้อยละ 8.3 กลับมาหดตัวในรอบ 5 เดือน ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 3.6 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน มีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว ขยายตัวร้อยละ 27.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จีน สหรัฐฯ และเซเนกัล) ยางพารา ขยายตัวร้อยละ 13.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย และตุรกี) อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัวร้อยละ 8.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อิตาลี มาเลเซีย และไต้หวัน) ไก่แปรรูป ขยายตัวร้อยละ 0.9 กลับมาขยายตัวในรอบ 13 เดือน (ขยายตัวในตลาดเนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไอร์แลนด์ และฟิลิปปินส์) เครื่องดื่ม ขยายตัวร้อยละ 6.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดเมียนมา มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ และสหรัฐฯ) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 10.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน) น้ำตาลทราย ขยายตัวร้อยละ 43.2 กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย ไต้หวัน และจีน) สิ่งปรุงรสอาหาร ขยายตัวร้อยละ 16.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ กัมพูชา และสหราชอาณาจักร) ผักสด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัวร้อยละ 19.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดมาเลเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สหรัฐฯ และกัมพูชา) กุ้งต้มสุกแช่เย็น ขยายตัวร้อยละ 127.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน และออสเตรเลีย)

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัวร้อยละ 27.9 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เวียดนาม เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 13.3 กลับมาหดตัวหลังจากขยายตัวในเดือนก่อนหน้า (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย และอิสราเอล แต่ขยายตัวในตลาดแคนาดา ลิเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กัมพูชา และจีน) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 51.2 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ แต่ขยายตัวในตลาดไต้หวัน สหรัฐฯ เวียดนาม ลาว และบังกลาเทศ) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ หดตัวร้อยละ 40.8 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดอินเดีย เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และกัมพูชา แต่ขยายตัวในตลาดเมียนมา เกาหลีใต้ จีน ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย) ทั้งนี้ ปี 2566 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 0.7


ทางด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 5.0 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน ซึ่งมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 4.3 กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐฯ) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 2.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดฮ่องกง จีน เนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย และออสเตรเลีย) ผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัวร้อยละ 3.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เกาหลีใต้ อินเดีย บราซิล และรัสเซีย) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขยายตัวร้อยละ 25.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และเมียนมา) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 6.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เบลเยียม และญี่ปุ่น) ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ขยายตัวร้อยละ 22.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เวียดนาม และอียิปต์)

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ เคมีภัณฑ์ หดตัวร้อยละ 6.5 หดตัวต่อเนื่อง 20 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย กัมพูชา และลาว แต่ขยายตัวในตลาดอินเดีย เวียดนาม สหรัฐฯ มาเลเซีย และไต้หวัน) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 12.2 หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และฟิลิปปินส์ แต่ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย และอิตาลี) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 27.2 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาดเบลเยียม สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และจีน แต่ขยายตัวในตลาดเนเธอร์แลนด์ อิตาลี ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสเปน) ทั้งนี้ ปี 2566 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม หดตัวร้อยละ 1.0

ทั้งนี้การส่งออกไปตลาดส่งออกสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัว ตามทิศทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ทยอยปรับดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามการส่งออกไปบางตลาดยังคงมีความไม่แน่นอน ท่ามกลางภาวะการชะลอตัวของภาคการผลิต และความเสี่ยงจากปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ (1) ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 1.1 โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 0.3 จีน ร้อยละ 2.0 และอาเซียน (5) ร้อยละ 18.0 ในขณะที่ตลาดญี่ปุ่น สหภาพยุโรป (27) และ CLMV หดตัวร้อยละ 3.7 ร้อยละ 5.3 และร้อยละ 9.4 ตามลำดับ (2) ตลาดรอง ขยายตัวร้อยละ 7.5 โดยขยายตัวในตลาดเอเชียใต้ ร้อยละ 7.0 ทวีปออสเตรเลีย ร้อยละ 5.4 ลาตินอเมริกา ร้อยละ 14.4 และรัสเซียและกลุ่ม CIS ร้อยละ 50.4 ขณะที่หดตัวในตลาดตะวันออกกลาง ร้อยละ 5.4 แอฟริกา ร้อยละ 0.1 และสหราชอาณาจักร หดตัวร้อยละ 22.8 (3) ตลาดอื่น ๆ ขยายตัวร้อยละ 355.2 อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ ขยายตัวร้อยละ 567.6

ตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 0.3 (ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 2.8

ตลาดจีน กลับมาขยายตัวร้อยละ 2.0 สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 หดตัวร้อยละ 0.8

ตลาดญี่ปุ่น กลับมาหดตัวร้อยละ 3.7 สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ และเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เป็นต้น ทั้งนี้
ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 0.1

ตลาดสหภาพยุโรป (27) หดตัวร้อยละ 5.3 (หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 หดตัวร้อยละ 4.2

ตลาดอาเซียน (5) ขยายตัวร้อยละ 18.0 (ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และน้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบแผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 หดตัวร้อยละ 1.6

ตลาด CLMV หดตัวร้อยละ 9.4 (หดตัวต่อเนื่อง 14 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และเครื่องดื่ม เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ทองแดงและของทำด้วยทองแดง น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำตาลทราย เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 หดตัวร้อยละ 14.3

ตลาดเอเชียใต้ ขยายตัวร้อยละ 7.0 (ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และเม็ดพลาสติก เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 หดตัวร้อยละ 6.8

ตลาดทวีปออสเตรเลีย ขยายตัวร้อยละ 5.4 (ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 3.3

ตลาดตะวันออกกลาง หดตัวร้อยละ 5.4 (หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ข้าว เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และยางพารา เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.6

ตลาดแอฟริกา หดตัวร้อยละ 0.1 (หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ข้าว เคมีภัณฑ์ และเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 4.7

ตลาดลาตินอเมริกา กลับมาขยายตัวร้อยละ 14.4 สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 3.0

ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ขยายตัวร้อยละ 50.4 (ขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน) สินค้าสำคัญ
ที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และน้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 47.3

ตลาดสหราชอาณาจักร หดตัวร้อยละ 22.8 (หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และไก่แปรรูป เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารสัตว์เลี้ยง และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 0.9

สำหรับการส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ และแนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์ดำเนินงานที่สำคัญในเดือนธันวาคม อาทิ (1) การประชุมร่วมภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อบริหารจัดการผลไม้แบบครบวงจร จัดประชุม “แนวทางมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567” ระหว่างหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ร่วมหารือการบริหารจัดการผลไม้ล่วงหน้า ผ่านมาตรการเชิงรุก
6 ด้าน 25 แผนงาน โดยมีมาตรการส่งเสริมการส่งออกผลไม้ในตลาดต่างประเทศ ได้แก่ การจัดมหกรรมการค้าชายแดนเพื่อส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทยในประเทศเพื่อนบ้าน การจับคู่ธุรกิจ Business Matching มูลค่ารวมกว่า 650 ล้านบาท
การส่งเสริมเมนูผลไม้ผ่านร้านอาหาร Thai Select ทั่วโลก ผลักดันการส่งเสริมการส่งออกผลไม้ผ่านการใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นต้น (2) เร่งขับเคลื่อนการค้าและเศรษฐกิจเชิงรุกในจีน ด้วยการทำงานเชิงรุกของพาณิชย์จังหวัด บูรณาการร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 9 แห่งในจีน ร่วมกับเอกอัครราชทูตไทย และตัวแทนสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศ เพื่อผลักดันการค้าและขยายการลงทุน ตามนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของนายกรัฐมนตรี
(3) การบรรลุผลการเจรจา FTA ไทย-ศรีลังกา ซึ่งเป็นความสำเร็จในการเจรจา FTA ฉบับที่ 15 ของไทย โดยผลการเจรจาครอบคลุมทั้งการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และคาดว่าจะลงนามความตกลงในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ต่อไป

ส่วนแนวโน้มการส่งออกในปี 2567 กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าหมายการทำงานไว้ที่ขยายตัวร้อยละ 1.99 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 290,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 10 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพมากขึ้น แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่บรรเทาลง และการสิ้นสุดการใช้นโยบายการเงินตึงตัวของประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลดีต่อปริมาณการค้าโลกให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น อักทั้งยังมีแรงหนุนจากการสำรองสินค้าเกษตรและอาหารตามความมั่งคงทางอาหารและการฟื้นตัวของวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก อย่างไรก็ดีมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและต้นทุนสินค้า ผลกระทบจากภัยแล้งในหลายพื้นที่ทั่วโลก และเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริม
การส่งออกมากกว่า 400 กิจกรรมในประเทศต่าง ๆ ทั้งการบุกตลาดเมืองรอง และการขับเคลื่อนการเจรจา FTA ภายใต้ “นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” ของรัฐบาล ซึ่งได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อผลักดันการส่งออกไทยให้เติบโตเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่อไป.- 513 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก.​เผยไทยเตรียมประท้วง หากกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

ทำเนียบ 18 ก.ค.-ศบ.ทก.​ ยัน​ไทยไม่เพิกเฉย​ เตรียมประท้วง หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่​ ผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ ปี​ 2542 ทำ 3 ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน​ เผย​ผลหารือร่วม​ เหตุหญิงกัมพูชาทำวุ่นปราสาทตาเมือนธม​ คัดกรองเข้มนักท่องเที่ยว​ ส่งชุดประสานงานไทย-กัมพูชา ฝ่ายละ 7 คน ดูแลนักท่องเที่ยว ห้ามเรียกกำลังเพิ่ม​ หวังลดการเผชิญหน้า พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ โดยพลเรือตรีสุร​สันต์​ กล่าวชี้แจงกรณี พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะผอ.ศบ.ทก​ ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด​ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก​ จังหวัดอุบลราชธานี โดยทหารทั้ง 3 นาย​ อยู่ในสภาวะขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันได้ดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ เป็นไปตามมาตรฐาน​ และทันท่วงทีจนอาการทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาด กองทัพภาคที่ 2 […]

นักท่องเที่ยวหลั่งไหลชมปราสาทตาเมือนธมคึกคัก

สุรินทร์ 18 ก.ค. – นักท่องเที่ยวสองประเทศยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ รวมทั้งให้กำลังใจทหารแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก ขณะที่ตำรวจพร้อมดำเนินคดีหญิงกัมพูชาด่าทหารไทย ด้านนายอำเภอพนมดงรัก ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัย ยันพยายามจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเข้ามามอบสิ่งของบำรุงขวัญทหารแนวหน้า และเข้าไปเที่ยวชมภายในตัวปราสาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศดูคึกคักตั้งแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวฝ่ายกัมพูชามีกลุ่มวัยรุ่นหัวเกรียน คนหน้าเดิม เข้ามาเป็นประจำ ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย คล้ายๆ กับการจัดตั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยล้วนเข้ามาด้วยความสมัครใจ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นโรดม แพน โมนิก้า หญิงกัมพูชาที่ชี้หน้าด่าและไล่ทหารไทย จะกลับเข้าพื้นที่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับสถานการณ์แล้ว ภายใต้ข้อตกลงที่มีร่วมกันจากเหตุดังกล่าวว่าให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายซ้ำรอยเดิม ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจากพันตำรวจเอก นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก ว่ามีคนแจ้งความดำเนินคดีนโรดม แพน โมนิก้า แล้ว ซึ่งตำรวจพร้อมเดินหน้าสะสางคดี เพื่อเป็นการยืนยันเขตอธิปไตยไทยด้วย การเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นของ อ.พนมดงรัก พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์ขายสินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น เสื้อยืดสกรีน ภาพทหารพร้อมข้อความ […]

“แพทองธาร” เยี่ยมทหารบาดเจ็บ ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ

อุบลราชธานี 18 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยรับมอบหมายจาก ครม. ให้เป็นตัวแทนร่วมคณะ “รมช.กลาโหม” เยี่ยมให้กำลังใจ 3 ทหารพราน ในเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดช่องบก ยกย่องเป็นแบบอย่างกล้าหาญเสียสละ ยัน “รัฐบาล – กองทัพ” รับผิดชอบดูแลกำลังพล ประชาชน พร้อมรักษาอธิปไตยไทย นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​วัฒนธรรม​ พร้อมด้วย พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิด ในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยนางสาวแพทองธาร ได้สอบถามอาการพลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน กำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 พร้อมบอกว่า รัฐบาลจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปมากกว่านี้ อะไรที่ทำได้ก็จะทำ พร้อมให้กำลังแม่ของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทราบว่า เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวตกใจ เพราะทหารคนดังกล่าวเพิ่งไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากนั้น นางสาวแพทองธาร และ พลเอกณัฐพล ได้เยี่ยมให้กำลังใจทหารอีก 2 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมรับฟังอาการ ว่า […]

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]