กรุงเทพ 24 ม.ค.-“สุริยะ” ระดมความเห็นหน่วยงาน “คมนาคม” สัมมนากำหนดทิศทาง “ขับเคลื่อนนโยบายคมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ปี 2567 – 2568 ผลักดันนโยบาย Quick Win เดินหน้า 72 โครงการสำคัญ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการประชุม สัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนนโยบายคมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ปี 2567 และปี 2568 โดยกระทรวงคมนาคม ได้จัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ หรือ Workshop เรื่อง การขับเคลื่อนนโยบายคมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชน ปี 2567 และปี 2568 ขึ้น ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม และวันที่ 29 มกราคม 2567 เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมนำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้มอบไว้เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ตามหลักการ “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้มอบไว้สำหรับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 – 2568 ไปแปลงเป็นแผนปฏิบัติการหรือ Action Plan ซึ่งจะทำให้นโยบายทั้งหมดเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับการจัดทำ Action Plan ทุกหน่วยงานจะได้ร่วมกันระดมความคิดเห็นตลอดช่วงเวลาของการ Workshop และขอให้เน้นย้ำการผลักดันนโยบาย Quick Win 2567 และ 2568 ในโครงการสำคัญ 72 โครงการ ที่กระทรวงคมนาคมได้แถลงข่าวต่อสาธารณะให้รับทราบไว้แล้ว นอกจากนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานพิจารณานโยบายของนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมโดยเฉพาะเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. นโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
2. บูรณาการแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับเส้นทางในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงกับจีนตอนใต้ (รถไฟไทย – สปป.ลาว – จีน) โครงการ EEC และเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่น ๆ
3. ให้ความสำคัญกับโครงการแลนด์บริดจ์ เปิดประตูการค้าสองฝั่งสมุทรทางภาคใต้
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเวลากว่า 3 เดือน ที่ตนเองและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมทั้ง 2 คนเข้ามาปฏิบัติงานที่กระทรวงคมนาคม พวกเราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากทุกหน่วยงาน ตนจึงมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าผลที่ได้จากการ Workshop ในครั้งนี้ จะนำไปสู่ Action Plan ที่มีประสิทธิภาพและผลักดันให้นโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
สำหรับการสัมมนาฯ ในวันนี้ มีความคาดหวังอยากให้ทุกหน่วยงานได้เร่งรัดและบูรณาการโครงการที่จะดำเนินงานในปี 2567 รวมทั้งร่วมกันพิจารณากำหนดโครงการใหม่ที่จะดำเนินการในปี 2568 ตามภารกิจและโหมดการขนส่งในทุกมิติ และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานได้นำเสนอกรอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการลงทุน แยกตามแหล่งเงิน ประโยชน์ที่จะประชาชนจะได้รับ และแผนการดำเนินการตั้งแต่เริ่มจนก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อนำภาพผลงานที่ได้ดำเนินงานไปแล้วในช่วง 99 วันที่ผ่านมา มารวมกับผลลัพธ์จากการทำ Workshop ในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนได้เห็นภาพที่ชัดเจนถึงทิศทางการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในอนาคต ซึ่งสามารถจับต้องได้และสามารถทำให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนำมาซึ่งความอุดมสุขของพี่น้องประชาชนคนไทยในทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งนี้ ตนเองจะมารับฟัง Action Plan และสรุปผลการสัมมนาจากทุกหน่วยงานในวันที่ 29 มกราคม 2567 และจะทำการแถลงผลการทำ Workshop ต่อสื่อสารมวลชนเพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป
นอกจากนี้ ส่วนความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์นั้น ขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2567 แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างที่ปรึกษา โดยการลงทุนเบื้องต้นในระยะที่ 1 มีมูลค่าการลงทุนกว่า 522,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี มีแผนงานก่อสร้างในปี 2568 และจะสามารถเปิดให้บริการในระยะแรกได้ในปี 2573
ส่วนการลงพื้นที่จ.ระนอง ในช่วงการประชุม ครม.สัญจร เมื่อวานนี้ นายสุริยะ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกับโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งต้องไปดูว่า จะต้องมีการเวนคืนที่ดินกี่ไร่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบอย่างไร และจะชดเชยเยียวยาชาวบ้านอย่างไร เพราะมีบางครอบครัวไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินก็กลัวจะไม่ได้รับค่าเวนคืน บางครอบครัวปลูกทุเรียนมีรายได้จากการขายทุเรียนปีละ 2 ล้านบาท ก็ต้องเข้าไปดูเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพราะรัฐบาลจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าเวนคืนที่ดินทั้งหมดให้ชาวบ้าน.-513-สำนักข่าวไทย