fbpx

ปลอม Form E นำไปใช้สิทธิพิเศษทางภาษีมีความผิดตามกฎหมาย

นนทบุรี 1 ธ.ค.-กรมการค้าต่างประเทศย้ำเตือน การปลอมหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแล้วนำไปใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่ประเทศปลายทาง นอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายแล้วยังส่งผลให้ปลายทางเข้มงวดตรวจสอบการใช้สิทธิฯ ของสินค้าจากไทยมากขึ้น


นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2566 (มกราคม – ตุลาคม) กรมฯ ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin : C/O) ให้ผู้ส่งออกนำไปใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีต่างๆ ได้รับการร้องขอจากหน่วยงานศุลกากรสาธารณรัฐประชาชนจีนให้ตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form E) รวมจำนวน 585 ฉบับ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ซึ่งการตรวจสอบพบว่า มีผู้ที่ไม่หวังดีได้ทำ Form E ปลอมขึ้นมา เพื่อนำไปใช้แสดงต่อศุลกากรจีนเพื่อใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร โดยหมายเลขอ้างอิง (Reference No.) ที่แสดงบน Form E ปลอมดังกล่าว จะไม่พบในระบบการออกหนังสือรับรองฯ ของกรมฯ รวมถึงระบบ THAILAND CERTIFICATE ON-LINE INQUIRY SYSTEM (TCOIS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ตรวจสอบความถูกต้อง/ความแท้จริงของหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ออกโดยกรมฯ ซึ่งการปลอม Form E ดังกล่าวสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของการส่งออกสินค้าไปจีนซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยเป็นอย่างมาก 

ทั้งนี้ จากสถิติการออก Form E ของกรมฯ ในปี 2566 (มกราคม – ตุลาคม) มีจำนวนรวม 217,007 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าส่งออก 20,508 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมี Form E ที่ถูกปลอมขึ้นจำนวน 585 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 0.27 ของ Form E ทั้งหมด โดยสินค้าที่ระบุใน Form E ปลอมส่วนใหญ่ คือ ทุเรียนสดและส้มโอสด ถึงแม้ Form E ปลอมจะมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับการออก Form E ทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของไทย หากเกิดขึ้นมากจะทำให้ศุลกากรจีนเข้มงวดกับการใช้สิทธิพิเศษฯ กับสินค้าจากไทยมากขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้ของไทยที่ส่งออกไปจีนเป็นจำนวนมากด้วย 


อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดในการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำความผิดในการปลอม Form E และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ กรมฯ ได้พัฒนาระบบการให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าใหม่ หรือที่เรียกว่า ระบบ DFT SMART C/O ที่จะนำร่องเปิดให้บริการกับ 4 ความตกลงฯ ได้แก่ RCEP, อาเซียน-ฮ่องกง, อาเซียน-ญี่ปุ่น และไทย-เปรู ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 นี้ 

ทั้งนี้ ระบบฯ ดังกล่าว ผู้ส่งออกสามารถพิมพ์หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้ด้วยตนเอง (Self-Printing) และได้เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการป้องกันการปลอมเอกสาร โดยจะมี QR Code 2 รหัส แสดงบนหนังสือรับรองฯ เพื่อใช้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและแสดงการประทับรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ (e-timestamping) จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยกระดาษแบบพิมพ์หนังสือรับรองฯ ยังเพิ่มฟังก์ชันพิเศษและกำหนดเลขที่หนังสือรับรองฯ รูปแบบใหม่ เพื่อให้ยากต่อการปลอมแปลง หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริการการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 4830 , 0 2547 4838 หรือสายด่วน 1385 และ www.dft.go.th .-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง