คมนาคมเตรียมแผนงานอำนวยความสะดวกเดินทางปีใหม่นี้ 

กรุงเทพฯ 28 พ.ย.-“สุริยะ” สั่งทุกหน่วยงาน คค. เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกปลอดภัย รองรับการเดินทางและกำหนดมาตรการเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้กับประชาชน


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จึงคาดการณ์ว่าจะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว หรือทำบุญด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นจำนวนมาก ด้วยความห่วงใยจึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่ออำนวยความสะดวกและกำกับดูแลความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งในระบบขนส่งสาธารณะและโครงข่ายถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบทั่วประเทศ พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 4 มกราคม 2567 รวม 7 วัน 

ทั้งนี้ เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ บูรณาการขับเคลื่อนแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อให้พี่น้องประชาชน “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” คลอบคลุมในทุกมิติ ดังนี้ คือ ด้านอำนวยความสะดวกในการเดินทาง


สนข. คาดการณ์ว่าในช่วง 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2567 จะมีปริมาณจราจรขาเข้าและออกกรุงเทพฯ บนถนนทางหลวง 5 แนวสายทาง (Corridor) เพื่อไปยังภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ โดยมีการจราจรบนทางหลวงสายหลักและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) รวม 6.96 ล้านคัน และบนทางพิเศษ รวม 10.68 ล้านคัน ดังนั้น เพื่อบริหารการจราจรให้เกิดความคล่องตัว 

กระทรวงคมนาคมจึงมีการรณรงค์ขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อกระจายการเดินทางและเหลื่อมเวลาการเดินทางในเส้นทางเข้า – ออกกรุงเทพฯ โดยขอความร่วมมือให้กลุ่มเดินทางใกล้ (ระยะทาง 200 – 300 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ) เดินทางออกหลังในวันที่ 29 ธันวาคม 2566 และเดินทางกลับเข้าก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยเลี่ยงการเดินทางช่วงที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการเดินทางสูง สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะขอให้วางแผนการเดินทางโดยสามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ 

นอกจากนี้ คาดว่าจะมีปริมาณการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ รวม 14.1 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากปีที่ผ่านมา และการเดินทางระหว่างจังหวัดรวม 1.8 ล้านคน-เที่ยว ลดลงร้อยละ 3 จากปีที่ผ่านมา โดยการเดินทางในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟฟ้าและรถโดยสารสาธารณะ และการเดินทางระหว่างจังหวัดส่วนใหญ่เป็นเครื่องบิน รถไฟ และรถโดยสารสาธารณะ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมระบบขนส่งสาธารณะทางบก ราง น้ำ และอากาศ รวมถึงการเชื่อมต่อการเดินทางที่สถานีรถโดยสาร ท่าเรือ และท่าอากาศยาน เพื่อให้บริการแก่พี่น้องประชาชนอย่างเพียงพอและเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด


อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง และช่องทางบริการให้ข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียน และจุดบริการประชาชนผ่านศูนย์ปลอดภัยคมนาคม สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ข้อมูลการเดินทาง รายงานอุบัติเหตุรวมทั้งรายงานสถานการณ์กรณีฉุกเฉิน และ Application  สายด่วน และ Website ของหน่วยงาน เพื่อบริการข้อมูลการเดินทาง แจ้งแนวทางให้บริการของหน่วยงานศูนย์ปฏิบัติการรายหน่วยงานเพื่อการกำกับดูแลและสั่งการ อาทิ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รับเรื่องร้องเรียนจากการใช้บริการขนส่งสาธารณะสายด่วน 1584 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สายด่วน 1690 จุดรับเรื่องร้องเรียน ณ หน่วยประชาสัมพันธ์ บริเวณสถานีขนส่ง ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) สายด่วน 1508ศูนย์ควบคุมการเดินเรือและศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางน้ำของกรมเจ้าท่า (จท.) สายด่วน 1199 ศูนย์อำนวยการสำนักทางหลวง ศูนย์ปฏิบัติการแขวงฯ สำนักงานบำรุงทางฯ และสำนักบริหารบำรุงทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของกรมทางหลวง (ทล.) สายด่วน 1586

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการจราจรบนเส้นทางถนนสายหลักและสายรองที่มีการจราจรหนาแน่นติดขัด อาทิ ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้เส้นทางรอง หรือเส้นทางเลี่ยงเพื่อลดปัญหาการติดขัดของจราจร เช่น เส้นทางที่จะไปภาคอีสาน สามารถใช้ ทล.304 (ฉะเชิงเทรา – กบินทร์บุรี) มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 (ปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ) ส่วนเส้นทางที่จะไปภาคเหนือสามารถใช้ ทล.340 (บางบัวทอง – ชัยนาท) และเส้นทางที่จะไปภาคตะวันออกสามารถใช้ ทล.3 (สุขุมวิท) ทล.34 (บางนา – ตราด) เป็นเส้นทางเลี่ยงได้ พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีโครงการก่อสร้างในเส้นทางต่าง ๆ จะต้องคืนพื้นผิวจราจรและจัดการบริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างให้มีความปลอดภัย รวมทั้งห้ามรถบรรทุก 10 ล้อ วิ่งในเส้นทางหลัก ตลอดจนขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้า หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อบรรเทาการจราจรและลดความเสี่ยงในเกิดอุบัติเหตุด้วย 

ส่วนด้านความปลอดภัยในการเดินทาง

– กำชับให้หน่วยงานสังกัดตรวจสอบ ปรับปรุง และจัดอุปกรณ์ความปลอดภัยบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย รักษาวินัยจราจร และระมัดระวังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเน้นการลดพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ “ไม่ขับเร็ว – คาดเข็มขัดนิรภัย – สวมหมวกนิรภัย – ดื่มไม่ขับ – ง่วงไม่ขับ – ไม่ขับรถย้อนศร” รวมถึงการสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่สัญจรทางน้ำ และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อเดินทางผ่านจุดเสี่ยง เช่น บริเวณจุดตัดรถไฟ เป็นต้น 

– กำกับดูแลและบริหารจัดการให้เกิดความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อาทิ ตรวจความพร้อมและมาตรฐานความปลอดภัยของพนักงานขับขี่ ยานพาหนะ และสถานีขนส่ง ทั้งทางบก ราง น้ำ และอากาศ และการนำเทคโนโลยี เช่น กล้อง CCTV ระบบ GPS มาช่วยกำกับดูแลความปลอดภัยทางถนน นำระบบ AIS/VMS มาช่วยกำกับดูแลความปลอดภัยทางน้ำ

– บูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางในระดับท้องถิ่น อาทิ การรณรงค์ให้ชุมชนในพื้นที่ดูแลซึ่งกันและกัน การเฝ้าระวังจุดตัดถนนกับรถไฟ การดูแลจุดเสี่ยงและการตั้งจุดตรวจบริเวณชุมชน

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2567 แก่พี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมกันให้บริการพิเศษแก่พี่น้องประชาชน ประกอบด้วย

– ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ได้แก่ มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ – เมืองพัทยา) และมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน – บางพลี และตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 3 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. เป็นเวลา 7 วัน

– ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 3 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. เป็นเวลา 7 วัน

– ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. เป็นเวลา 2 วัน

– เปิดใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 จาก “ปากช่อง – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา” เปิดให้บริการ 4 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ระยะทาง 77.493 กิโลเมตร เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อเท่านั้น และมีจุดบริการห้องน้ำ 1 จุด คือ ช่วงปากช่อง – สีคิ้ว กม. ที่ 147 ทั้งทิศทางขาเข้าและขาออก

– เปิดให้ทดลองวิ่งฟรีบนมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 (บางใหญ่ – กาญจนบุรี) ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก – ด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 50 กิโลเมตร  

“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่จะถึงนี้ ผมขอให้พี่น้องคนไทยมีความสุข เดินทางด้วยความระมัดระวัง และมีความปลอดภัย โดยกระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะอำนวยความสะดวก และดูแลประชาชนในทุกมิติ ตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” นายสุริยะกล่าว.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร