พาณิชย์หวั่นชาวนาถูกกดราคารับซื้อข้าวเปลือก เร่งเปิดจุดรับซื้อด่วน

นนทบุรี 16 พ.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์สั่งพาณิชย์จังหวัดเร่งติดตามพร้อมเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ที่จะเก็บเกี่ยว หวั่นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวถูกกดราคารับซื้อ มั่นใจแนวทางลุยเปิดตลาดนัดซื้อข้าวอีสานจะทำให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกได้ราคาดีขึ้น


นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ข้าวเปลือกในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคอีสาน จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกรมการค้าภายใน ประชุมกับสมาคมโรงสี สมาคมโรงสีภาคอีสาน และพาณิชย์จังหวัด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในภาคอีสาน พบว่า สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเกี่ยวสด ปัจจุบันอยู่ที่ 11,000-11,300 บาท/ตัน คิดเป็นข้าวแห้งที่ความชื้น 15% อยู่ที่ 14,200-14,600 บาท/ตัน

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาภาคอีสานบางพื้นที่มีฝนตกชุก และชาวนาเร่งเกี่ยว ทำให้ข้าวเปลือกมีความชื้นสูงมาก จึงได้ราคาที่ลดลงตามคุณภาพ อยู่ที่ 10,700 บาท/ตัน คิดเป็นข้าวแห้งความชื้น 15% อยู่ที่ 13,800 บาท/ตัน แต่จากนี้ไปฝนได้ทิ้งช่วงแล้ว ทำให้ข้าวที่เก็บเกี่ยวความชื้นลดลง จึงเชื่อว่าราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในภาคอีสานจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทางโรงสียินดีที่จะรับซื้อข้าวเพื่อช่วยชาวนาอย่างเต็มที่ และกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือให้ช่วยรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่เพิ่มขึ้น และยังได้มอบหมายสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดเร่งเปิดตลาดนัดข้าวเปลือกเพิ่มเติม จากขณะนี้ที่เปิดไปแล้ว 46 จุดใน 27 จังหวัด ให้ครอบคลุมการรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในทุกพื้นที่ รวมทั้งได้ประสานให้โรงสีนอกพื้นที่เข้าไประดมช่วยรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาเพิ่มเติมอีกด้วย จึงเชื่อว่าสถานการณ์ราคาจากนี้น่าจะปรับสูงขึ้น


อย่างไรก็ตาม จากภาวะอากาศที่ดีขึ้น พบว่าชาวนาได้นำข้าวมาตากเพื่อนำเข้ายุ้งฉาง เพื่อเข้าโครงการชะลอการขายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมาย 3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยชาวนาจะได้รับเงินค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน และได้รับเงินจาก ธ.ก.ส. ไปใช้จ่ายก่อนโดยไม่ต้องเร่งขาย โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ 12,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ นอกพื้นที่ อยู่ที่ 10,500 บาท/ตัน ข้าวปทุมธานีและข้าวเหนียว อยู่ที่ 10,000 บาท/ตัน ข้าวเจ้า อยู่ที่ 9,000 บาท/ตัน แต่ถ้านำไปฝากเก็บที่สหกรณ์ ชาวนาก็จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าฝากเก็บละ 500 บาท/ตัน ส่วนสหกรณ์ได้ 1,000 บาท/ตัน

นอกจากนี้ หากไปขายข้าวเปลือกที่สหกรณ์ก็จะได้รับราคาข้าวเปลือกเกี่ยวสดที่ความชื้นไม่เกิน 25% ในราคา 12,200 บาท/ตัน สำหรับเงินช่วยเหลือค่าบริหารจัดการ ไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 20 ไร่ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว จำนวน 56,321 ล้านบาท ก็จะได้ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีชาวนาโดยเร็วต่อไป หากชาวนามีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ