สศค.หั่นจีดีพีไทยปี 66 เหลือโต 2.7% 

กรุงเทพฯ 27 ต.ค.-สศค.หั่น GDP ไทยปี 66 เหลือโต 2.7% คาดมาตรการกระตุ้น เช่น เงินดิจิทัล และอื่นๆ ส่งผลต่อเศรษฐกิจ ประเมินปี 67 จีดีพีโต 3.2% 


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) โฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2566 ว่า คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.2-3.2%) จากเดิมที่คาดไว้จะโตได้ 3.5% หลังส่งออกมีแนวโน้มติดลบ 1.8% จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า และลงทุนภาครัฐทรงตัว เหตุกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ล่าช้า ส่วนปี 2567 คาดเศรษฐกิจจะขยายตัวเร่งขึ้นที่ 3.2% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.2-4.2%) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และภาคการส่งออก ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ


1) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป เช่น สถานการณ์สู้รบในอิสราเอลและกาซาที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้น ความยืดเยื้อของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและการค้าระหว่างประเทศ จำเป็นต้องติดตามบทบาทและท่าทีของแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด 

2) ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลักและปัญหาสถาบันการเงินในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป 

3) สถานการณ์เศรษฐกิจจีนที่ประสบปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการส่งออกและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของไทย


4) ปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ที่อาจทำให้เกิดภัยแล้งในปี 2567 ส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกร

“เดือน พ.ย.66 กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ธปท. ต้องเริ่มคุยถึงแนวทางการจัดทำงบประมาณปี 2568 และภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีดังกล่าว เพื่อให้เห็นภาพเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งในช่วงต้น-กลางปี 2567 จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐเข้าไปช่วย ทั้งมาตรการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท และมาตรการอื่น ๆ ในการดูแลยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน แต่จะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เท่าไหร่ คงต้องไปดูเงื่อนไขการใช้จ่าย กลุ่มเป้าหมาย และเม็ดเงินที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจว่ามีเท่าไหร่ รวมทั้งยังมีการลงทุนภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ขณะที่การส่งออกน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น โดยปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากระดับปัจจุบันให้เติบโตได้ถึงระดับศักยภาพ โดยการที่จะทำให้ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1% นั้น จะต้องมีเม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท” นายพรชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง