SET SOURCE  : ธุรกิจ Soft Power ไทย ในเวที Thailand Focus 2023

กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – SET SOURCE  ระบุ Soft Power ของไทยมีศักยภาพปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจประเทศ การวางกลยุทธ์ และ Positioning ประเทศไทยในตลาดโลก ชี้วัฒนธรรมของไทยเป็นขุมทรัพย์ สร้างมูลค่าและรายได้ให้กับประเทศ


SET SOURCE ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่บทความเรื่อง “ ธุรกิจ Soft Power ไทย ในเวทีThailand Focus 2023”  โดยระบุว่างาน Thailand Focus ปีนี้ ภายใต้ธีม “The New Horizon” เมื่อ 23-25 ส.ค.2566 เป็นการเปิดมุมมองใหม่ ให้ผู้ลงทุนเห็นถึงศักยภาพของภาคเอกชนและตลาดทุนไทย นำเสนอเนื้อหาที่ลงลึกในศักยภาพ และโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรม ที่จะเป็นจุดขายใหม่ของประเทศ ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว และรายใหม่ที่ยังไม่เคยร่วมงาน หลังจากสถานการณ์โควิด ประกอบกับปัจจัยการเมืองของไทย ที่มีพัฒนาการเชิงบวกจากความชัดเจนมากขึ้น หลัเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้สำเร็จ และถือเป็นภาพบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

The New Horizon เป็นการก้าวไปข้างหน้าผ่านการสำรวจขอบเขตใหม่ ความเป็นไปได้และการเปิดรับโอกาสที่ไร้ขอบเขตที่รออยู่ข้างหน้า โดยดึงจุดแข็งของประเทศมาใช้ ซึ่งมีผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกให้ความสนใจเข้าร่วมงาน และรับฟังแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เปิดโอกาสการเติบโตด้วยอุตสาหกรรมใหม่และธุรกิจที่เป็นอนาคตของประเทศ ต่อยอดจากความเข้มแข็งของไทย เช่น การทำธุรกิจบนหลักความยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจ Soft Power ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยและเป็นหัวข้อหลักในงาน Thailand Focus 2023 ครั้งนี้


การใช้ประโยชน์จากจุดแข็งหลักด้าน Soft Power ของไทยมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงการวางกลยุทธ์ และ Positioning ประเทศไทยในตลาดโลก เพื่อให้ได้ประโยชน์จากศักยภาพและขับเคลื่อนการเติบโตเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ความหมายของ Soft Power เกี่ยวข้องกับ “วัฒนธรรมที่มีพลังสูง เป็นทักษะสร้างสรรค์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ” ซึ่งแสดงถึงการใช้คุณค่าวัฒนธรรมของไทยในการสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคง เน้นการใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างการยอมรับและทำให้ประเทศอื่นๆ เข้าใจทั้งในด้านวัฒนธรรม การเมืองและนโยบายต่างประเทศ โดยมีมุมมองว่าวัฒนธรรมของไทยเป็นขุมทรัพย์และทรัพยากรที่มีค่าและสร้างความสำเร็จทางเศรษฐกิจ ผ่านการใช้วัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ เช่น อาหารไทย ละครไทย กีฬาไทย เพื่อสร้างมูลค่าและรายได้ให้กับประเทศ โดยในงาน Thailand Focus 2023 มีการเสวนาในหัวข้อ “The Potential of Thailand’s Thriving Soft Power” ซึ่งมีการถอดบทเรียนจากผู้แทนบริษัทในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Soft Power ได้ดังนี้

-Siam Wellness Group 

อยู่ในธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม มากว่า 25 ปี กล่าวบนเวทีว่า 60% ของรายได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เพราะศาสตร์เกี่ยวกับการนวดไทยมีการสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน โดยบริษัทวางแผนจะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ดี อาจต้องมีการปรับการบริการเพื่อทำให้ต่างชาติสามารถเข้าถึงและได้รับการผ่อนคลายจากการนวดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนไทย และการหารายได้ของคนไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  


-Global Sport Venture 

อยู่ในธุรกิจเจ้าของสถานที่จัดการแข่งขันกีฬา และสร้าง Content เกี่ยวกับมวยไทย ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรป ที่คลั่งไคล้ในกีฬามวยไทยซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ปัจจุบัน บริษัทได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มด้านกีฬาจาก UK และถ่ายทอดสดมวยไทยไปกว่า200 ประเทศ อีกทั้งมีแผนการปรับปรุงสนามมวยราชดำเนิน รวมถึงเปลี่ยนแปลงกฎกติกาบางอย่างให้มีความทันสมัยเพื่อเป็นการพัฒนาและผลักดันให้วัฒนธรรมไทยกลายเป็นที่ยอมรับและสามารถแข่งขันในตลาดโลก

-S&P Syndicate 

ร้านอาหารไทยซึ่งให้บริการลูกค้ามายาวนานถึง 50 ปี โดยเป็นร้านอาหารยอดนิยมของคนไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ นอกจากนี้มีการขยายสาขาไปยังต่างประเทศด้วยเมนูที่แตกต่างจากที่ให้บริการในเมืองไทยผ่านการร่วมทุนและรูปแบบ Franchise โดยยึดแนวคิดที่อยากให้อาหารไทยดั้งเดิมที่เป็นจุดแข็งของประเทศ แต่ปรับรสชาติและวัตถุดิบ ให้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ซึ่งนอกจากช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยให้ยั่งยืนแล้วยังสามารถก้าวสู่ความเป็นนานาชาติได้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร