OR แจงกระทบน้อย หนุนภาครัฐดูแลค่าครองชีพ

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แจงกระทบน้อย หนุนภาครัฐลดค่าครองชีพประชาชน พร้อมเผยรายได้อื่นเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ละปีกำไรเติบโต 10%


นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า แม้ว่าอาจจะมีผลกระทบจากนโยบายของภาครัฐบาลที่ปรับลดราคาน้ำมันและค่าการตลาดลงบ้าง แต่ก็กระทบน้อย เพราะหากดูพอร์ตกำไรแล้ว การขายปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น เป็นตัวเลขไม่มาก มีเพียงสัดส่วนไม่เกิน 30% ของกำไรสุทธิเท่านั้น และหากเทียบสัดส่วนยอดขายในธุรกิจค้าปลีกผ่านปั๊มน้ำมัน จะมีสัดส่วนยอดขาย 55% ของธุรกิจ mobility ที่เหลืออีก 45% เป็นการค้าน้ำมันอื่นๆ ได้แก่ การค้าน้ำมันเครื่อง เครื่องบิน เดินเรือ อุตสาหกรรม ราชการ แอลพีจี และผลิตภัณฑ์พิเศษ เช่น ยางมะตอย โดยธุรกิจของโออาร์ มี 4 ด้าน คือ mobility, lifesyle, global และ innovation

“นโยบายรัฐเรื่องการลดค่าครองชีพ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อประชาชน ส่วนผลกระทบของโออาร์ก็ไม่มากนัก เพราะเป็นผู้ซื้อมาขายไป มีพอร์ตขายปลีกเป็นสัดส่วนของกำไรไม่มากนัก ราว 30% ของกำไรสุทธิ ในขณะที่ค่าการตลาดก็อยู่ในกรอบของภาครัฐมาโดยตลอด คือไม่เกิน 2 บาท/ลิตร นอกจากนี้ ธุรกิจอื่นๆ ยังขยายตัวได้ดี เช่น น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันอากาศยานที่แข่งขันอย่างเต็มที่ โออาร์ก็สามารถชิงยอดขายเป็นอันดับที่ 1” นายดิษทัต กล่าว


ส่วนยอดขายน้ำมันอากาศยานเป็นธุรกิจที่แข่งขันเต็มที่ ปี 2566 โออาร์เติบโตต่อเนื่อง ยอดขายปีนี้ขยายตัว 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คาดประมาณ 3,200 ล้านลิตร ส่วนปี 2567 คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่ประมาณ 4,000 ล้านลิตร/ปี และคาดว่านโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 จะช่วยทำให้การท่องเที่ยวคึกคัก ยอดขายน้ำมันและอื่นๆ ก็จะเพิ่มขึ้น

ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยอดขายน้ำมันยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ส่งผลให้คาดว่าภาพรวมผลประกอบการทั้งปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รักษาระดับกำไรเติบโตในภาวะปกติปีละ 10% ขณะที่ไตรมาส 3/2566 บริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรตามทิศทางที่กำหนด

ส่วนที่ช่วงครึ่งแรกของปี 66 มีกำไร 5,732 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 10,413 ล้านบาท เป็นเพราะปี 65 มีกำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงกว่าปกติ จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวนจากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งหากเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในธุรกิจเดียวกัน ก็จะเห็นได้ว่า ปีนี้มีกำไรลดลงในทิศทางเดียวกัน แต่โออาร์ยังแข็งแกร่ง ทำกำไรได้ดี


ส่วนที่มีการวิจารณ์​ตัวเลขค่าการตลาดน้ำมันที่อ้างอิงในเว็บไซต์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ที่ดูว่าสูงและแตกต่างจากการคำนวณของผู้ค้าน้ำมัน เนื่องจากมีการอ้างอิงการคำนวณที่แตกต่างกัน โดยของผู้ค้าน้ำมันคำนวณจากต้นทุนจริงที่ซื้อจากโรงกลั่นฯ ด้วยค่ากำมะถันไม่เกิน 50 ppm (ยูโร 4) แต่ของ สนพ. คำนวณจากค่าเฉลี่ยของน้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ ที่ไม่มีราคา 50ppm โดยอ้างอิงค่าเฉลี่ยน้ำมัน 500 ppm และ 10 ppm (EURO5) ทำให้ค่าของ สนพ. สูงกว่าเอกชนราว 1.20-1.30 บาท/ลิตร เช่น ค่าการตลาดน้ำมันเบนซินของ สนพ. อ้างอิงที่สูงถึง 3.10-3.30 บาท/ลิตร แต่ในส่วนของผู้ค้าน้ำมันจะอยู่ที่ 1.90-2.00 บาทเท่านั้น โดยค่าการตลาดเฉลี่ยของโออาร์ปีนี้อยู่ที่ 1.60-1.70 บาท/ลิตร และคาดว่าปัญหานี้จะหมดไป เพราะตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67 ประเทศไทยใช้น้ำมันมาตรฐาน EURO 5 ทำให้ สนพ. และผู้ค้าน้ำมันจะใช้มาตรฐานอ้างอิงเดียวกันที่กำมะถันไม่เกิน 10 ppm

สำหรับนโยบายเปิดเสรีนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปนั้น ขณะนี้คงจะต้องดูรายละเอียดว่า ภาครัฐจะมีแนวทางเพิ่มเติมอย่างไร แต่ที่ผ่านมาธุรกิจนำเข้าน้ำมันเป็นเสรีอยู่แล้ว แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานน้ำมันของไทย ซึ่งมีรายละเอียดมาตรฐานที่สูง ส่งผลให้ต้นทุนนำเข้าสูงขึ้นด้วย โดยจะเห็นได้ว่า แม้แต่เชลล์ที่มีโรงกลั่นฯ ในสิงคโปร์ ยังไม่นำเข้า โดยซื้อจากเมืองไทยเป็นหลัก ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตน้ำมันกลุ่มเบนซินไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ ทางโออาร์ได้มีการนำเข้าเป็นครั้งคราว พบว่ามีต้นทุนสูงกว่าการซื้อจากโรงกลั่นในประเทศราว 1 บาท/ลิตร โดยไตรมาสที่ 4/66 คาดว่าโออาร์ต้องมีการนำเข้ากลุ่มเบนซินราว 50 ล้านลิตร. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย