ขอนแก่น 24 ก.ย.- ธ.ก.ส.ขอนแก่น แจงขอใช้พื้นที่ตลาดกลางคืน เพื่อจัดทำลานตากข้าว โกดังเก็บ
ตามที่กลุ่มผู้จำหน่ายพันธุ์ไม้และร้านค้า ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น บริเวณสี่แยกถนนศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมและสื่อมวลชน กรณี ธ.ก.ส.มีหนังสือให้ออกจากพื้นที่ เพื่อพัฒนาตลาดกลาง เพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้องต่อประเด็นดังกล่าว ธ.ก.ส. ขอเรียนชี้แจง ดังนี้
1.ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่นก่อตั้งเมื่อปี 2533 ใช้เป็นตลาดการซื้อขายผลผลิตที่มีมาตรฐาน ทั้งด้านคุณภาพและการรักษาเสถียรภาพด้านราคา สร้างความเป็นธรรมในการซื้อขายผลผลิตและลดปัญหาการ
ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการขายผลผลิตของเกษตรกร และเป็นที่ตั้งสาขาของ ธ.ก.ส. โดยเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น
2.ในเวลาต่อมา เกษตรกรกลุ่มจำหน่ายพันธุ์ไม้ 12 ราย ประสบปัญหาไม่มีสถานที่จำหน่ายสินค้า ธนาคาร จึงให้เกษตรกร ใช้พื้นที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่นจำหน่ายสินค้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยรับผิดชอบจ่ายค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้าและค่าเก็บขยะเอง ปัจจุบันมีผู้ใช้พื้นที่ 41 ราย
3.ที่ดินแปลงดังกล่าว ใช้ในกิจการของรัฐที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ กรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่ จึงขอให้ผู้ค้าทั้งหมดย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นประโยชน์โดยรวมต่อเกษตรกร ในปี 2561 ธ.ก.ส. ได้เชิญกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ผู้ใช้พื้นที่ทั้งหมดหารือ และขอยุติการใช้พื้นที่ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 พร้อมส่งมอบพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากตลาด ยื้ดเยื้อจนถึงปี 66
4.กลุ่มผู้ใช้พื้นที่ 32 คน ได้ยื่นฟ้อง ธ.ก.ส. ต่อศาลปกครองขอนแก่น แต่ศาลปกครองขอนแก่นมีคำสั่ง เมื่อ 31 สิงหาคม 2566 ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และไม่พิจารณาคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีทั้ง 32 คน
5.การใช้พื้นที่ของตลาดกลางในช่วงที่ผ่านมา ธ.ก.ส. คำนึงถึงประโยชน์ของเกษตรกร โดยสนับสนุนเงินทุนและเปิดโอกาสสร้างอาชีพและรายได้อย่างเต็มที่
ธ.ก.ส.มีแผนปรับปรุงพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การปรับปรุงลานตากข้าว โกดังเก็บข้าวที่ทันสมัย เพื่อรองรับผลผลิตจากเกษตรกรกรรายย่อย ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานของความเป็นธรรมและโปร่งใส ทั้งยังให้โอกาสผู้ใช้พื้นที่มาหลายครั้งและเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ธ.ก.ส. จึงจำเป็นต้องขอพื้นที่ดังกล่าวคืน และขอยืนยันว่า การขอคืนพื้นที่ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของความเห็นอกเห็นใจ ภายใต้กรอบของกฎหมายทุกขั้นตอน.-สำนักข่าวไทย