ทีทีบี พัฒนาโซลูชันรวบหนี้-สินเชื่อสวัสดิการ ช่วยมนุษย์เงินเดือนปลดหนี้

นครราชสีมา 16 ก.ย. – ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) ประกาศแผนขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Ecosystem Play ช่วยมนุษย์เงินเดือนปลดภาระหนี้ผ่านโซลูชันรวบหนี้และสินเชื่อสวัสดิการกว่า 170,000 คน ภายใน 3 ปี พร้อมเดินหน้ายกระดับดิจิทัลแบงก์กิ้ง


นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า ทีทีบี มุ่งมั่นที่จะทำให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดย 1 ใน 3 กลยุทธ์ที่สำคัญของปีนี้คือ Ecosystem Play Business Model หรือ การสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้นรอบด้านโดยมุ่งเน้น 3 กลุ่มเป้าหมายหลักที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าเป็นแต้มต่อ ได้แก่ กลุ่มมนุษย์เงินเดือน (Salaryman Ecosystem) กลุ่มคนมีรถ (Car Owner Ecosystem) และกลุ่มคนมีบ้าน (Home Owner Ecosystem) เพื่อช่วยให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถบริหารจัดการเรื่องสำคัญในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและรอบด้านมากกว่าแค่เรื่องการเงิน

ที่ผ่านมา ทีทีบี เปิดตัวฟีเจอร์ My Car บนแอปฯ ttb touch ช่วยให้ลูกค้ามีรถได้รับความสะดวกสบายในการจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับรถ เช่น การเติมเงิน-เช็กยอดบัตรทางด่วน Easy Pass การต่อประกันและ พ.ร.บ.รถยนต์ การประเมินราคารถพร้อมประกาศขาย ตลอดจนโปรโมชันต่าง ๆ เกี่ยวกับการดูแลรถ เป็นต้น ปัจจุบันมีรถที่ลงทะเบียนใช้งานฟีเจอร์นี้กว่า 580,000 คัน มีผู้ใช้มากกว่า 150,000 คน/เดือน ส่งผลให้ลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารมีพฤติกรรม Active บนดิจิทัลแบงก์กิ้งมากกว่า 78% รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มบริการซื้อ-ขาย “รถโดนใจ” (Roddonjai) ที่ช่วยคู่ค้าเต็นท์รถมือสองจากการโดนดิสรัปชันในตลาด โดยในช่วง Soft Launch ที่ผ่านมามีดีลเลอร์ผู้จำหน่ายรถเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มแล้วมากกว่า 1,200 ราย โดยธนาคารจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้


ขณะที่กลุ่มคนมีบ้าน ธนาคารเพิ่งเปิดตัวบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ttb l Global House ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดบัตรใหม่รวมราว 30,000 ใบ ภายใน 2 เดือน และเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ My Home เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านแอปฯ ttb touch

สำหรับกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ทีทีบี มีเป้าหมายที่จะเป็นมากกว่าบัญชีเงินเดือนสำหรับลูกค้า Payroll ซึ่งได้เปิดตัวฟีเจอร์ My Tax ผู้ช่วยบริหารจัดการทุกเรื่องภาษี และล่าสุดได้เริ่มเปิดตัว my work by ttb ระบบบริหารงานบุคคลแบบมืออาชีพ ซึ่งเป็น HRM System ที่จะช่วยเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SME และฝ่ายบุคคลขององค์กรสามารถบริหารงานบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ เป็นบริการใหม่ที่เริ่มเปิดตัวเว็บไซต์ mywork.ttbbank.com ให้ลูกค้าธุรกิจที่สนใจโซลูชันนี้เข้ามาลงทะเบียนล่วงหน้า และจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ สำหรับ my work by ttb จะช่วยให้ฝ่ายบุคคลสามารถจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับที่ทำงานได้ ทั้งคำนวณเงินเดือนและสามารถโอนจ่ายเงินเข้าบัญชีพนักงานได้ในคลิกเดียว จัดทำเอกสารต่าง ๆ ช่วยลดขั้นตอน Manual รวมถึงการเบิก-จ่ายต่าง ๆ ของพนักงาน จัดการแบบดิจิทัล ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี และเพื่อตอบโจทย์การสร้าง Ecosystem ให้สมบูรณ์ ในส่วนของพนักงานเองก็สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ ttb touch ทั้งในส่วนของการบันทึกเวลาเข้า-เลิกงาน การจัดการวันลา การเบิกจ่าย/โอที รวมถึงการขออนุมัติต่าง ๆ

นายปิติ กล่าวเพิ่มเติมถึงปัญหาเรื่องหนี้ ซึ่งถือเป็นปัญหาการเงินอันดับ 1 ที่เป็นอุปสรรคของไทยสู่การมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยมีกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเป็นหนึ่งในกลุ่มที่กำลังเผชิญปัญหาหนี้มากที่สุด และจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น หากไม่มีการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จึงทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ทีทีบี ได้พัฒนาโซลูชันทางการเงิน เน้นการช่วยมนุษย์เงินเดือนปลดหนี้ให้เกิดผลลัพธ์ได้จริงมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ธนาคารได้จัดทำ “โปรแกรมปลดหนี้ เพื่อพนักงานทีทีบี” โดยจะมีกิจกรรมทั้งการตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์และเรียนรู้วิชาการเงินที่เหมาะกับสุขภาพการเงินของแต่ละคนผ่าน E-Learning ที่เน้นเพิ่มภูมิคุ้มกันหนี้และเน้นรักษาปัญหาหนี้ พร้อมมีโค้ชปลดหนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรี และมีแผนจะขยายโปรแกรมนี้สู่กลุ่มลูกค้าและประชาชนทั่วไปในอนาคต


ด้านนายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า หนึ่งในโซลูชันเพื่อช่วยลูกค้าปลดหนี้ได้ คือ โปรแกรมรวบหนี้ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยคนเป็นหนี้ให้มีสภาพคล่อง และลดภาระดอกเบี้ย โดยได้รับการตอบรับอย่างดี มีลูกค้าเข้าร่วมโปรแกรมรวบหนี้แล้วกว่า 5,000 ราย วงเงินสินเชื่อรวม 3,600 ล้านบาท แบ่งเบาภาระดอกเบี้ยได้มากกว่า 400 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้พบว่าเป็นกลุ่มพนักงานเงินเดือนมากกว่า 95% ที่เข้าร่วมโปรแกรมรวบหนี้ อีกทั้งพบว่าประเภทหนี้ที่ลูกค้านำไปปิดบัญชีจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล 50% ตามมาด้วยหนี้บัตรเครดิต 47%  จึงทำให้นอกจากการให้ตัวช่วยแล้ว ธนาคารยังมีเป้าหมายที่จะขยายการรับรู้และขยายความช่วยเหลือไปสู่กลุ่มผู้ที่ถูกปฏิเสธเพราะมีภาระหนี้สูง แต่ประวัติการชำระเงินดี ให้สามารถเข้าโปรแกรมรวบหนี้ได้ พร้อมด้วยการพัฒนาระบบในการเข้าร่วมโปรแกรมรวบหนี้ผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการได้รับความสะดวกมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเสริมสภาพคล่องและช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ดอกเบี้ยสูงให้ต่ำลง เริ่มต้นที่ 7.99% ต่อปี และตั้งแต่ปี 2565 ทีทีบีได้ขยายตลาดสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ฯ ด้วยการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการสินเชื่อสวัสดิการเพื่อพนักงานกับบริษัทเอกชน หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งปัจจุบันรวมแล้วกว่า 1,000 บริษัท มีจำนวนพนักงานราว 300,000 คน

“ทีทีบี ตั้งเป้าหมายช่วยคนไทยปลดหนี้ภายใน 3 ปี ผ่านโครงการรวบหนี้ 20,000 คน วงเงินรวบหนี้ 18,000 ล้านบาท ช่วยลดดอกเบี้ยได้ 2,000 ล้านบาท และช่วยเหลือพนักงานผ่านโครงการสินเชื่อสวัสดิการ ทีทีบี จำนวน 150,000 คน เป็นวงเงิน 30,000 ล้านบาท ช่วยลดดอกเบี้ยได้ 3,600 ล้านบาท” นายฐากร กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน”​ เข้า ก.มหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ

ก.มหาดไทย 26 ก.ย.-“อนุทิน”​ เข้ากระทรวงมหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ บอก​พักร้อนไป 2 เดือน มีความพยายามใช้อำนาจการเมืองโยกย้ายข้าราชการ ย้ำ​ถ้าวันนั้นไม่จากไป​ คงไม่มีวันนี้ที่กลับมา​ ขอ​ยึดหลักซื่อสัตย์-สุจริต ไม่เกรงกลัวอำนาจใด พร้อมรักษาความสัมพั​นธ์ ​สนับสนุนงานกัน​ ก่อนทิ้งท้ายเนื้อเพลง​ “บอกที่แล้วก็แล้วไป” เมื่อเวลา 14.50 น. นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย​ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา​ วิเชียรศิลป์​ และนางสาวศศิธร​ กิตติธรกุล​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ​ เพื่อมอบนโยบาย​ โดยมีนายอรรถษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ ​นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า​ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้เรารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้​ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดช​ พระคุณอย่างสุดความสามารถร่วมกับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใดตนมีความยินดี​ ดีใจที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งในกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้ “ในขณะที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ […]

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]