ตู้เติมเงิน “กะปุก”เสียงตอบรับดีหลังนำร่อง 200 ตู้มีรายได้ 3-5 หมื่นบาทต่อปี

นนทบุรี 15 ก.ย.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโชว์ผลเพิ่มรายได้ให้ร้านโชห่วย ด้วยการติดตั้งตู้เติมเงิน “กะปุก” หลังนำร่องไป 200 ตู้ พบมีรายได้ประมาณ 3-5 หมื่นบาทต่อปี คาดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 10 ล้านบาท 


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้าเพิ่มรายได้ให้กับร้านสมาร์ทโชห่วยอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มต่าง ๆ ในการเข้ามาสนับสนุนร้านค้า ซึ่งความร่วมมือที่กรมมองว่าประสบความสำเร็จโครงการหนึ่ง ที่ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา คือ การร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิสจำกัด (มหาชน) หรือ AWS นำตู้เติมเงิน “กะปุก” ให้ร้านโชห่วยทั่วไทย ภายใต้แนวคิด “ขยายฐานลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใกล้บ้าน” นำร่อง 200 ตู้ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางการค้า เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ และเพิ่มเครื่องมือที่ช่วยในการแข่งขัน ซึ่งล่าสุดได้ส่งมอบให้กับร้านโชห่วยครบแล้ว 

สำหรับตู้กะปุก สามารถให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ วอลเลท (Wallet) บัตรเงินสด บัตรเกม หรือชำระค่าบริการมือถือ ค่าบริการแพกเกจเสริม โดยประชาชนสามารถทำธุรกรรมได้ที่ร้านสมาร์ทโชห่วยใกล้บ้าน ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่าย ส่วนร้านสมาร์ทโชห่วยก็มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการขายสินค้าอุปโภคบริโภคตามปกติ  


ทั้งนี้ จากการประเมินการให้บริการตู้กะปุก 1 ตู้ จะมีรายได้ประมาณ 30,000-50,000 บาท ต่อปี โดยรายรับมาจาก 2 ทาง คือ 1.ค่าธรรมเนียมเติมเงิน เช่น เติมเงิน 20 บาท ค่าธรรมเนียม 2 บาท เป็นต้น และ 2.เปอร์เซ็นต์จากยอดเติมเงินที่จะได้รับจากเจ้าของเครือข่ายเติมเงิน ประมาณ 2.7-3% โดยร้านสมาร์ทโชห่วยที่ติดตั้งตู้กะปุกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 100 บาท เป็นค่าบริหารจัดการรายเดือนซิม โทรศัพท์ 50 บาท และค่าไฟตู้กะปุกประมาณ 50 บาทแต่เมื่อหักลบยอดระหว่างรายรับและรายจ่ายแล้ว ผู้ประกอบการยังคงมีรายรับที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการตู้กะปุก ซึ่งถือเป็นรายได้เสริม โดยคาดว่าทั้ง 200 ตู้ จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 10 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กรมได้เดินหน้าโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส โดยได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรร่วมกันพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย หรือโชห่วยทั่วประเทศให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ด้วยการเข้าไปเพิ่มพูนความรู้ที่จำเป็นต่อการบริหารธุรกิจ ช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านค้า ให้สวย สะอาด สว่าง สะดวก สบาย นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ รวมทั้งช่วยเพิ่มรายได้ เช่น การติดตั้งเติมเงิน ตู้ให้บริการแบบหยอดเหรียญ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว