ไทยสร้างไทย ห่วงน้ำมันเถื่อน หากนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรี

กรุงเทพฯ 7 ก.ย.-พรรคไทยสร้างไทย ห่วงน้ำมันเถื่อน หากเปิดนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปแบบเสรี ไร้แผนรองรับ ด้าน กรมสรรพสามิตแจงไม่ได้เสนอลดดีเซล 2 บาท ส่วนเอกชนหนุดลดภาษี ดีเซล และยืดหนี้ กฟผ.โดยรัฐบาลควรออกพันธบัตรมาชดเชย

นายภัชริ นิจสิริภัช และนายรณกาจ ชินสำราญ กรรมการบริหาร พรรคไทยสร้างไทยและ คณะทำงานด้านพลังงานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออกมาระบุว่ามีแนวคิดที่เตรียมจะนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมาจำหน่ายว่า ผู้มีอำนาจ ที่รับผิดชอบดูเรื่องโครงสร้างพลังงานของประเทศยังไม่รู้จักโครงสร้างราคาน้ำมันและไม่รู้จักกลไกของน้ำมันที่แท้จริง โดยเฉพาะเมื่อต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ใครจะเป็นผู้นำเข้า รัฐบาลจะดำเนินการเองหรือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีศักยภาพและเงินทุนมากเพียงพอเพราะส่วนต่างกำไรของการค้าน้ำมันน้อยมาก เป็น Economy of scale


นายภัชริ ตั้งคำถามถึง ใครจะเป็นคนจัดจำหน่าย จะจำหน่ายปันส่วนอย่างไรให้เพียงพอกับความต้องการ ที่มากถึงวันละเกือบประมาณ 1ล้านบาร์เรล และเราจะนำเข้าน้ำมันจากที่ใดโรงกลั่นที่ใด ให้คุ้มค่ากับค่าขนส่ง ขณะที่การจัดเก็บภาษีต่างๆ จะยกเว้นหรือไม่ หรือจัดเก็บเหมือนเดิม ถ้าจัดเก็บเหมือนเดิมราคาน้ำมันจะถูกกว่าเดิมอย่างไร

ส่วนต้นทุนการกลั่นน้ำมันทั่วโลกใกล้เคียงกัน หมายถึงราคาหน้าโรงกลั่นทั่วโลกก็จะพอกัน เพราะมีราคากลางที่อ้างอิงกันทั่วโลก และเมื่อมีการนำเข้าเสรีการควบคุมใครจะเป็นคนควบคุมโดยเฉพาะน้ำมันเถื่อนที่ทะลักเข้ามา ที่สำคัญหากนำเข้าได้จริง โรงกลั่นที่อยู่ในประเทศไทยทั้ง7แห่ง จะดำเนินการอย่างไร และมีแผนรองรับอุตสาหกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโรงกลั่นมากมาย รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร


นายรณกาจ ระบุว่า ประเทศไทยบริโภคน้ำมันวันละเกือบ 1 ล้านบาร์เรล ผลิตเองได้ไม่ถึง 200,000 บาร์เรล ต้องนำเข้าเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ และจะมีแหล่งน้ำมันสำเร็จรูปขนาดไหน ที่จะรองรับปริมาณมหาศาลขนาดนี้ หากวันใดต้นทางไม่ขายให้ โรงกลั่นที่มีอยู่ก็ปิดตัวลงหรือกำลังการผลิตลดลง จะกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงทางพลังงานหรือไม่

ด้านแหล่งข่าวจากวงการน้ำมันระบุว่าข้อเท็จจริง ในขณะนี้ การค้าน้ำมันของไทยเป็นระบบเสรีอยู่แล้ว ผู้ค้ามาตรา7 สามารถนำเข้ามาจำหน่ายได้ แต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขมาตรฐานน้ำมันตามกฏหมายไทย ที่ปัจจุบัน มาตรฐานยูโร4 และจะปรับเป็นยูโร5 ในวันที่ 1 ม.ค. 66 ซึ่งมาตรฐานสูงขึ้นก็จะทำให้ราคาแพงขึ้นด้วยเพราะต้นทุนการกลั่นจะสูงขึ้น โดยปัจจุบันต้นทุนราคาน้ำมันขายปลีกของไทย ร้อยละ 40-60 มาจากเนื้อน้ำมัน/ร้อยละ 30-40 มาจากภาษีน้ำมัน, ร้อยละ 5-20 มาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง,และร้อยละ 10-18 มาจากค่าการตลาดน้ำมัน และค่าการตลาดน้ำมันของไทยมีการสำรวจต้นทุนทุก 5 ปีพบว่าอัตราเหมาะสมเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ 2 บาท/ลิตร เนื่องจากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาตลอด จากทั้งค่าเช่าที่ดิน ,ค่าจ้างเด็กปั๊ม,ค่าน้ำ,ค่าไฟ และคาดกันว่าค่าการตลาดจะเพิ่มขึ้นในปี 67 หลังไทยใช้มาตรฐานน้ำมันใหม่ยูโร 5

ในส่วนค่าไฟฟ้า งวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค. 66 ) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย มาจากค่าไฟฐานราว 3.70 บาท/หน่วยและค่าไฟอัตโนมัติ(เอฟที) 66.89 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งต้นทุนคิดเฉพาะต้นทุนค่าไฟนั้นอยู่ที่ 4.10 บาท/หน่วย ส่วนที่เหลือ ส่วนใหญ่เป็นการใช้หนี้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ที่รับภาระต้นทุนเชื้อเพลิงแทนประชาชน ตั้งแต่ช่วงโควิด-19และผลกระยูเครน-รัสเซีย รวมๆแล้ว 1.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้แนวทางการลดค่าไฟ ทำได้โดยการยืดหนี้ กฟผ. หรือรัฐบาลนำเงินมาอุดหนุนค่าไฟฟ้า โดยทุก 1 สตางค์ที่ลดลงต้องใช้เงินราว 600 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยอมยืดหนี้ให้ประชาชนจากเดิมชำระคืน 6 งวดเอฟที เป็น 7 งวดเอฟทีมาแล้ว


“หากรัฐบาลอุดหนุนพลังงานต่อเนื่องควรคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศ เพราะหากราคาต่ำเกินจริง ก็จะทำให้มีการใช้แบบไม่ประหยัด กระทบต้นทุนนำเข้าของประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของน้ำมันหากราคาถูกอาจเกิดกระบวนการลักลอบนำเข้า-ส่งออก เพราะราคาต่ำก็จะมีการไหลไปเพื่อนบ้าน ก็นับเป็นต้นทุนที่คนไทยต้องจ่ายเพื่ออุดหนุนเพื่อนบ้านไปด้วย และที่สำคัญควรต้องคำนึงถึงมาตรฐานน้ำมันของไทย ที่ขณะนี้สูงกว่าเพื่อนบ้าน” แหล่งข่าวระบุ

ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย( ส.อ.ท. )เห็นด้วยในการลดต้นทุนพลังงาน โดยในส่วนของค่าไฟฟ้า เห็นว่าจะสามารถลดค่าไฟจาก 4.45 บาทเหลือ 4.25 บาท/หน่วยได้ทันทีหากยืดหนี้การชำระต่อ กฟผ.ออกไป และเพื่อไม่ให้กระทบภาระต้นทุนการเงิน กฟผ. ทางรัฐบาลก็ควรจะออกพันธบัตร รัฐบาล 5ปีมาชำระเงินให้ กฟผ. ก็จะทำให้ต้นทุนการเงิน กฟผ.ถูกลง และประชาชนจะมีทางเลือกการออมเงินเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ก็ควรจะเปลี่ยนสมมุติฐานราคาแอลเอ็นจี ก็จะทำให้ราคาค่าไฟต่ำลง และสามารถปรับค่าไฟฟ้าออกเป็น 2 ราคา เพื่อช่วยประชาชน โดยให้นำราคาก๊าซฯในประเทศมาคำนวณค่าไฟให้ภาคครัวเรือน ราคาก็จะเหลือต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วย ส่วนภาคผู้ประกอบการก็สามารถใช้โครงสร้างแอลเอ็นจีนำเข้าค่าไฟก็อาจอยู่ที่ 4.25 บาทต่อหน่วย

ส่วนราคาดีเซลสามารถลดได้โดยลดภาษีดีเซล 2 บาท/ลิตร ราคาจะเหลือ 30 บาท/ลิตร ในขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ไม่ควรให้เข้ามารับภาระเพิ่มอีกเพราะขณะนี้กองทุนฯติดลบ ราว 5.7 หมื่นล้านบาทเป็นเงินบัญชีน้ำมันติดลบ 1.23 หมื่นล้านบาทและ ติดลบบัญชีแอลพีจี 4.47 หมื่นล้านบาท ตามที่ได้มีข่าวเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ว่ากรมสรรพสามิตกำลังจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกรัฐมนตรี ลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 2 บาท นั้น กรมสรรพสามิตขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และกรมสรรพสามิตไม่ได้มีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าววานนี้ว่า นโยบายเร่งด่วนคือลดราคาน้ำมัน โดยอาจลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 2 บาท จากปัจจุบันเก็บลิตรละ 6 บาท เพื่อให้ราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท จากปัจจุบัน 32 บาท/ลิตร โดยต้องหารือกระทรวงพลังงานและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งการลดภาษีทุก 1 บาท จะกระทบรายได้ภาษีเดือนละ 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ รัฐบาลที่ผ่านมาลดภาษีดีเซลรวม 7 ครั้ง เป็นเงินภาษีที่เสียไป 1.58 แสนล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย