ธอส. ส่งมอบที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ประจำปี 2566

16 ส.ค. – ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ปักธงลงพื้นที่ ส่งมอบที่อยู่อาศัย เพื่อผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ประจำปี 2566 ณ ตำบลเมืองใหม่ อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดกิจกรรมส่งมอบที่อยู่อาศัย ตามโครงการสร้าง/ซ่อม ที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ประจำปี 2566 เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยในสภาพที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย ส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร

นายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการธนาคาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวภายหลังพิธีส่งมอบที่อยู่อาศัย โครงการสร้าง/ซ่อม ที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ประจำปี 2566 ณ ตำบลเมืองใหม่ อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรรมการผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานธนาคารร่วมกิจกรรม ว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลังที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ได้ให้ความช่วยเหลือคนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4 ล้านครอบครัว


ขณะเดียวกัน ธนาคารยังได้ดำเนินการตามนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย เพื่อร่วมยกระดับ และสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชน ให้สามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาธนาคาร ได้อนุมัติให้สนับสนุนการสร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยมาแล้ว รวม 4,589 หลัง สำหรับในปี 2566 ธนาคารฯ ได้ดำเนินงานตามนโยบายในโครงการสร้าง / ซ่อม ที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัย ให้แก่ผู้ที่มีความเดือดร้อน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทรา คัดเลือกผู้ที่มีความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย เพื่อทำการสร้างบ้านพักอาศัย จำนวน 1 หลัง ๆ ละ 200,000 บาท และซ่อมแซมบ้านพักอาศัยอีกจำนวน 2 หลัง ๆ ละ 50,000 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคอีกหลังละ 4,000 บาท รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 312,000 บาท ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว นับเป็นบ้านที่สร้างแล้วเสร็จและส่งมอบ เป็นหลังที่ 4,590 4,591 และ 4,592 จากจำนวนบ้านทั้งหมดที่ธนาคารได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือกว่า 4,700 หลัง โดยมีผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือมาแล้วกว่า 18,800 ราย

ทั้งนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์เดินหน้าสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยจัดทำ
โครงการสร้าง / ซ่อม ที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล