ปตท.Kick-off “จุดพลังชีวิต พลิกผืนป่า 1 ต้นกล้า…สู่ป่าล้านที่ 2”

ลพบุรี 8 ส.ค. – ปตท. Kick-off “จุดพลังชีวิต พลิกผืนป่า 1 ต้นกล้า…สู่ป่าล้านที่ 2” เร่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวลดคาร์บอน ร่วมกับภาครัฐ เครือข่าย และชุมชน ร่วมปลูกป่า 4,500 ต้น ณ แปลงปลูกป่า ปตท. จังหวัดลพบุรี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2566


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Kick-off “ปตท. จุดพลังชีวิต พลิกผืนป่า” 1 ต้นกล้า…สู่ป่าล้านที่ 2 ณ แปลงปลูกป่า ปตท. ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าวังเพลิง ป่าม่วงค่อม และป่าลำนารายณ์ ตำบลมหาโพธิ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นายวชิระ เกตุพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ผู้บริหารและพนักงาน ปตท. หน่วยงานภาครัฐ เครือข่าย ปตท. รวมถึงเครือข่ายชุมชนในพื้นที่มากกว่า 450 คน ร่วมปลูกต้นไม้จำนวน 4,500 ต้น เป็นพรรณไม้พื้นถิ่นจำนวน 25 ชนิด อาทิ ประดู่ป่า พะยอม แดง มะค่าแต้ และตะแบก นำมาปลูกเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยได้รับการจัดสรรพื้นที่จากกรมป่าไม้จำนวน 413 ไร่ ในความรับผิดชอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี อีกทั้งรูปแบบการจัดงานยังเป็น Carbon Neutral Event ที่คำนึงถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกๆ กิจกรรม เน้นใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ โดย ปตท. ได้รวบรวมข้อมูลและคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมทั้งหมด และจะนำคาร์บอนเครดิตของ ปตท. มาชดเชยเป็นจำนวน 45 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

นอกจากกิจกรรมปลูกฟื้นฟูป่าแล้ว ยังมีการทำฝายชะลอน้ำ เพื่อชะลอน้ำในฤดูฝนให้คงอยู่ในพื้นที่ให้นานขึ้น รวมทั้งช่วยกระจายความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ปลูกป่า และเป็นประโยชน์ต่อกล้าไม้ที่ปลูกใหม่อีกด้วย


โดยในปีนี้ ปตท. กำหนดเป้าหมายพื้นที่ปลูกป่ารวม 86,173 ไร่ทั่วประเทศ ควบคู่กับการนำแปลงปลูกขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ตามมาตรฐานของประเทศไทย หรือ T-VER ที่จะยกระดับการปลูกฟื้นฟูป่าให้มีมาตรฐานเป็นไปตามหลักวิชาการ

นายอรรถพล เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ ปตท. ในการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 กลยุทธ์หลักที่ขับเคลื่อน ปตท. สู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายใน พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) โดย ปตท. ตั้งเป้าหมายปลูกป่าเพิ่ม 1 ล้านไร่ และความร่วมมือจากบริษัทในกลุ่ม ปตท. อีก 1 ล้านไร่ ภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ.2030) และเมื่อรวมกับพื้นที่แปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ 1 ล้านไร่ คาดว่าพื้นที่แปลงปลูกป่าของกลุ่ม ปตท. กว่า 3 ล้านไร่ จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ ปตท. ซึ่งจะมีศักยภาพในการดูดซับมากกว่า 4.15 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

นอกจากนี้ผืนป่าที่ฟื้นฟูกลับมาจะทำหน้าที่ให้บริการทางนิเวศ (Ecosystem service) ทั้งเป็นแหล่งต้นน้ำ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงช่วยสร้างทุนทางสังคมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนคิดเป็นมูลค่าหลายล้านบาทต่อปี


ตลอดระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมา ปตท. ยึดมั่นพันธกิจหลักในการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ พร้อมให้ความสำคัญกับการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเส้นทางการปลูกป่าของ ปตท. เริ่มต้นใน พ.ศ. 2537 เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้รัฐบาลหาแนวทางทางยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่า และฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมเป็นการเร่งด่วน ด้วยมีพระราชดำรัส “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” ที่แสดงถึงพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะทรงงานด้านการอนุรักษ์ป่า เนื่องจากทรงเห็นว่าป่าไม้ในประเทศไทยถูกทำลายลงไปมาก ปตท. หรือการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยในขณะนั้น จึงรับอาสาปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) จำนวน 1 ล้านไร่ จนบรรลุเป้าหมายเมื่อ พ.ศ. 2545 รวมพื้นที่แปลงปลูกกว่า 1,043,230 ไร่ ใน 419 แปลง ครอบคลุม 48 จังหวัดทั่วประเทศ

“ปตท. พร้อมสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ด้วยตระหนักเป็นอย่างดีถึงความเร่งด่วนของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมุ่งพัฒนาธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำและเป็นองค์กรที่ดีของสังคม เน้นสร้างความโปร่งใสในการขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและกลุ่มธุรกิจใหม่ ควบคู่กับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล พร้อมจุดพลังและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย รวมทั้งดูแลสังคมและทรัพยากรธรรมชาติ ให้เติบโตเคียงข้างกันไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายอรรถพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]