เกาะสมุย 14 ก.ค.- ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับตั้งรัฐบาลล่าช้า งบปี 67 เบิกจ่ายออกสู่ระบบได้ช่วงเดือนมีนาคม 2567
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาล หากยืดเยื้อ เปลี่ยนขั้ว กว่าจะเริ่มประกาศนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อจัดทำงบให้สอดคล้องกับนโยบายหาเสียง คาดว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท ล่าช้าออกไปประมาณ 6 เดือน เบิกจ่ายออกสู่ระบบได้ช่วงเดือนมีนาคม 2567 โดยงบประจำ เช่น เงินเดือนข้าราชการ งบผูกพัน ใช้กรอบเดิมไปพลางก่อนได้ สิ่งที่เป็นห่วงคือ งบลงทุน เพราะเป็นวงเงินใหม่อัดฉีดสู่ระบบ 6 แสนล้านบาท ตามปกติงบลงทุนจะเบิกจ่ายได้ในช่วงท้ายๆ ไตรมาส 3-4 ของปีงบประมาณ เงินลงทุนจึงขาดหายไปประมาณร้อยละ 30 หรือประมาณ 1.8 แสนล้านบาท กระทบจีดีพี ประมาณร้อยละ 0.03-0.05 ของจีดีพี เพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ โครงการที่เป็นงบผูกพัน เร่งรัดอัดฉีดเงินออกสู่ระบบ คาดว่าจะเร่งรัดเบิกจ่ายให้เร็วขึ้น ในช่วงไตรมาส 1และ 2 ของปีงบประมาณ 2567 ประมาณ 5-6 หมื่นล้าน ด้วยการส่งเสริมนำงบอบรม สัมมนา ซึ่งมีอยู่ราว 5-6 หมื่นล้านบาท ออกมาใช้จ่าย แผนลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 5 แสนล้าน สามารถเร่งเบิกจ่ายอย่างไรบ้าง การผลักดันโครงการลงทุนของเอกชน ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท มองว่า จะเพียงพอรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงรอยต่อการจัดตั้งรัฐบาล
นายพรชัย ฐีระเวช โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในปี 2566 นี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.6 คาดว่าเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีก่อน จากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยังคาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 29 ล้านคน ดุลบัญชีเดินสะพัด จะกลับมาเกินดุล 4.2 พันล้านดอลลาร์ และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปร้อยละ 2.6 นับว่าทยอยลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายข้อตกลงของคลังและ กนง. โดยในวันที่ 26 ก.ค.นี้ กระทรวงการคลัง เตรียมประกาศทบทวนตัวเลขจีดีพีปี 66 อีกครั้ง เนื่องจากมีหลายปัจจัยเปลี่ยนไปมาก เช่น เงินบาทอ่อนค่ามากขึ้น การเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวจีน เพราะเศรษฐกิจจีนมีปัญหา
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้เตรียมแผนรองรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า โดยร่วมกับสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย วางแผนเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ควบคู่ 68 ตั้งแต่ปลายปีปฏิทินนี้ รองรับการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า หลังมีรัฐบาลใหม่ จำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม สศค.ได้เตรียมพร้อมแพลตฟอร์มการใช้จ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ต่างๆไว้รองรับนโยบายของรัฐบาลใหม่ และต้องกระตุ้นการบริโภคเป็นหลัก เพราะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบได้เร็วที่สุด จึงได้ออกแบบให้ตรงกับกลุ่ม เพราะมีงบฯ จำกัด เช่น อาจใช้งบฯกลางฉุกเฉินหากจำเป็น.-สำนักข่าวไทย