กรุงเทพฯ 29 มิ.ย.-กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 5 เดือนของปี 2566 (มกราคม – พฤษภาคม) อยู่ที่ 157.75 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.0 แต่ยอดใช้ดีเซลซึ่งเป็นตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจหดตัวร้อยละ 3
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 อยู่ที่ 157.75 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3.0 โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.9 และการใช้ NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ขณะที่ น้ำมันกลุ่มดีเซล น้ำมันเตาและ LPG มีการใช้ลดลงร้อยละ 3.0 ร้อยละ 2.1 และร้อยละ 3.0 ตามลำดับ
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.91 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.6 การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.98 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.90 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.89 ล้านลิตร/วัน 0.22 ล้านลิตร/วัน และ 0.48 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกับแก๊สโซฮอล์ 91 ประกอบกับแก๊สโซฮอล์ อี20 มีราคาที่ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ อี85
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 73.53 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.0 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 65.97 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 1.00 ล้านลิตร/วัน 0.16 ล้านลิตร/วัน และ 6.40 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลโดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไปจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 และการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลกมีความผันผวนจากความกังวลทางเศรษฐกิจและวิกฤตด้านการเงินจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.64 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 84.9 เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้นภายหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย
การใช้ LPG เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.36 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.0 โดยภาคปิโตรเคมีมีการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 7.34 ล้าน กก./วัน ภาคครัวเรือนลดลงมาอยู่ที่ 5.73 ล้าน กก./วัน และภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ 2.03 ล้าน กก./วัน ขณะที่การใช้ในภาคขนส่งอยู่ที่ 2.26 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.49 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.7 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการตามปกติ ประกอบกับมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงาน ช่วยเหลือประชาชน โดยการคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2566 ถึง 15 มิถุนายน 2566
การนำเข้าน้ำมัน เฉลี่ยอยู่ที่ 1,079,851 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.9 มูลค่า 97,292 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 1,003,021 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 91,395 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 76,830 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,897 ล้านบาท/เดือน
ส่วนการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG ปริมาณส่งออกอยู่ที่ 153,157 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 10.1 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 15,084 ล้านบาท/เดือน .-สำนักข่าวไทย