ส.อ.ท. – กนอ. หนุนจัดการของเสียมาตรฐาน Eco Factory

กรุงเทพ 20 มิ.ย.- ส.อ.ท.จับมือ กนอ. หนุนผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับรองมาตรฐาน Eco Factory ให้ได้ครบ 100% ในปี 2568


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงเจตนารมณ์การส่งเสริมการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยส.อ.ท. และ กนอ. มีความร่วมมือในการพัฒนามาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ตั้งแต่ปี 2560 และในปี 2565 ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม พัฒนามาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory For Waste Processor) ขึ้น เพื่อให้การรับรองแก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานประเภท 101, 105 และ 106 ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการในด้านการบำบัด กำจัด หรือ รีไซเคิล กากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีการปฏิบัติตามกฎหมาย

ทั้งนี้ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่าง 4 ฝ่าย ได้แก่ ส.อ.ท. กนอ. กลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม และ ผู้ประกอบการจัดการของเสียอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Waste Processor) ได้รับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) ครบ 100% ภายในปี 2568 ซึ่งปัจจุบัน กนอ.และ ส.อ.ท. ได้ให้การรับรองโรงงานอุตสาหกรรมภายใต้มาตรฐาน Eco Factory จำนวน 379 แห่ง และมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor  จำนวน 9 แห่ง และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมจำนวน 18 แห่ง


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า  ส.อ.ท. มีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทยให้เป็นไปอย่างยั่งยืน เกิดสมดุลในด้านเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดรับกับนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบ BCG ของรัฐบาล ด้าน Green Economy และ Circular Economy ส.อ.ท. ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโดยเฉพาะสมาชิกของ ส.อ.ท. มีการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกวิธีและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย และส่งเสริมให้สมาชิกในกลุ่มผู้รับบำบัด กำจัดของเสีย ยกระดับมาตรฐานการจัดการกากอุตสาหกรรมด้วยตราสัญลักษณ์ Eco Factory For Waste Processor  รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนของเสีย (Circular Material Hub) เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและผลิตภัณฑ์พลอยได้ โดยอาศัยแนวคิดการเปลี่ยน waste จากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปเป็นวัตถุดิบ หรือ Materials ให้อีกอุตสาหกรรมหนึ่ง ตามหลัก Circular Economy

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า เพื่อขยายผลความร่วมมือดังกล่าว และเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการมีการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและขอรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) เพิ่มมากขึ้น กนอ. ได้ประกาศสิทธิประโยชน์/มาตรการจูงใจต่อการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สำหรับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม โดยผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ระดับ 3 ขึ้นไป หรือธงขาวดาวทอง จะได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าบริการคำขอด้านการใช้ที่ดินและประกอบกิจการ และด้านสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2567 โดยสามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ผ่านระบบอนุมัติอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ (e-Permission Privilege : e-PP) ของ กนอ.

ทั้งนี้ ในภาคส่วนของผู้ประกอบกิจการภาคอุตสาหกรรม ได้ประกาศเจตนารมณ์พร้อมทั้งแสดงจุดยืนภายในงานเพื่อเน้นย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรที่มีต่อการส่งเสริมการบริหารจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนด้วยการเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับรอง Eco Factory for Waste Processor


นายปรีดา วัชรเธียรสกุล Vice President-Manufacturing บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า SCGC ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดัน Sustainable supply chain ด้วยการเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับรองตราสัญลักษณ์ Eco Factory For Waste Processor ซึ่งปัจจุบัน SCGC ได้สื่อสารไปยังคู่ค้าในเรื่องของนโยบายการพิจารณาใช้บริการผู้รับกำจัดของเสียที่ได้รับรองมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการบริหารจัดการของเสีย ตลอดทั้ง Supply chain ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

นายประนาช โกศายานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์ แผนและพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า IRPC มีความุ่งมั่นและยินดีอย่างยิ่งที่ร่วมเป็นกำลังขับเคลื่อน ผลักดัน และสนับสนุนการบริหารจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยในฐานะของผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่เป็นคู่ค้าธุรกิจขอรับรองมาตรฐานโรงงานได้รับรองมาตรฐาน  Eco Factory for Waste Processor อีกทั้งจะเลือกใช้ผู้ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว

นายเสขสิริ ปิยะเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานคุณภาพความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า GC ตระหนักถึงการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน จึงขอร่วมส่งเสริมนโยบายดังกล่าว และพร้อมที่จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ภายในปี 2569

นายชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) และในนามผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรม ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ 11 กลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้การกำกับดูแลของ ส.อ.ท. กล่าวว่า ความมุ่งมั่นดำเนินอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Becoming Environmental Friendly Industry) และมีความรับผิดชอบต่อสังคม (Committed to Social Responsibility Engagement) จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ร่วมเป็นกำลังขับเคลื่อน ผลักดัน และสนับสนุนการบริหารจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน (Sustainable Supply Chain) ด้วยการเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) และด้วยบทบาทหน้าที่ของการประกอบกิจการภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นทั้งผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) และเป็นผู้บำบัดกำจัดของเสีย (Waste Processor) จึงมีเป้าหมายการขับเคลื่อนร่วมกัน ในบทบาทที่แตกต่างกัน ดังนี้

1) เป้าหมายการส่งเสริมในฐานะของผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่เป็นคู่ค้าธุรกิจขอรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) อย่างน้อยในระดับพื้นฐาน (Beginner) และ/หรือสนับสนุนการเลือกใช้บริการผู้ประกอบการจัดการของเสียอุตสาหกรรมที่ได้รับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) ภายในระหว่างช่วงปี 2568-2569 ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประโยชน์สูงสุด ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมทั้งสอดคล้องตามนโยบาย BCG ของภาครัฐ นำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

2) เป้าหมายการส่งเสริมในฐานะของผู้บำบัดกำจัดของเสีย (Waste Processor) จะมุ่งสู่การขอรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) อย่างน้อยในระดับพื้นฐาน (Beginner) ภายในปี 2568 ตามนโยบายการส่งเสริมของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงการยกระดับการรับรองอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับสู่ Sustainable Supply Chain ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุกยิงกลางตลาด อ.ต.ก.จตุจักร ตาย 6 เจ็บ 2

กทม. 28 ก.ค. – คนร้ายบุกยิงในตลาด อ.ต.ก. จตุจักร ก่อนจบชีวิตตัวเอง เสียชีวิตรวม 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในตลาด อ.ต.ก.จตุจักร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายชื่อนายน้อย อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของแผงขายสินค้าในตลาด อ.ต.ก. ก่อเหตุจ่อยิงศีรษะ รปภ. 4 คน และแม่ค้า 2 คน ก่อนจบชีวิตตัวเอง ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าเรื่องความขัดแย้ง .-สำนักข่าวไทย

วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ปะทะหนักแต่เช้ามืด

สุรินทร์ 28 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ กัมพูชาเปิดฉากปะทะหนักตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะโซนปราสาทตาควาย ด้านทีมข่าวลงพื้นที่ ต.บักได พบกระสุน BM-21 ตกจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกิน 40 ลูก ขณะที่ศูนย์พักพิง ชาวบ้านยังมีปัญหาการหลับนอน และยังต้องการสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทีมข่าวลงพื้นที่ ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ มีกระสุน BM 21 มาตกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกินกว่า 40 ลูก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบ้าน แต่สถานการณ์การปะทะ ที่เข้าสู่วันที่ 5 ทำให้วัวตายไปหลายตัว ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ทางการเกษตร โดยวันนี้พบว่า มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธหนักตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 และมีเสียงดังอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เว้นระยะบ้าง เสียงรัวถี่บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วง 10 โมงครึ่งที่ผ่านมา มีการปะทะกันชุดใหญ่เกินครึ่งชั่วโมง ทำให้เครื่องบินรบ F 16 ต้องขึ้นบินถล่ม เมื่อ 11 โมงเศษที่ผ่านมา สองแนวหลักที่ยิงข้ามมาเป็นประจำคือ […]

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย