พัฒนาแหล่งระดมทุน EEC ด้วยดอลลาร์-เงินดิจิทัล 

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.-อีอีซี จับมือ ตลท.-ก.ล.ต.-ธปท. พัฒนาแหล่งระดมทุนใหม่ (EEC Fundraising Venue) ด้วยเงินดอลล่าร์-เงินดิจิทัล  ส่งเสริมธุรกิจรายใหญ่-เอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ เข้าถึงแหล่งเงินทุน ดึงดูดการลงทุนทั่วโลกสู่พื้นที่อีอีซี


สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาแหล่งระดมทุน EEC (EEC Fundraising Venue) เพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับการลงทุนใน EEC ซึ่งจะทำให้บริการการเงินในตลาดเงินและตลาดทุนของไทยโดยรวมมีความหลากหลายโดยนักลงทุนจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงิน ระดมทุน และเข้าถึงบริการการเงินด้วยความคล่องตัวในต้นทุนที่เหมาะสม โดยมีเป้าหมายกลุ่มบริษัทข้ามชาติ กลุ่มผู้ประกอบการไทยขนาดใหญ่ กลุ่ม SME และกลุ่มผู้ประกอบการStart-Up ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาลงทุนหรือขยายการลงทุนในเขตพื้นที่ EEC

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. เปิดเผยว่า สกพอ.และ ตลท. โดยความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และ ธปท. จะร่วมกันจัดทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) เพื่อพัฒนาแหล่งระดมทุนดังกล่าว ทั้งระบบรองรับการระดมทุน และการซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับกลุ่มผู้ระดมทุนเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี บนโครงสร้างพื้นฐาน(Platform) ของ ตลท. โดยมีแนวคิดพัฒนา 2 ส่วน ได้แก่  1) บนแหล่งระดมทุนเดิม (Traditional Path – SET) พัฒนากระดานระดมทุน EEC ที่ระดมทุนด้วยเงินตราต่างประเทศเป็นหลัก จะเริ่มด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นลำดับแรก ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจที่ต้องการจะระดมทุนและจัดทำงบการเงินหรือใช้เงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินหลักสามารถทำธุรกรรมกู้ยืมระดมทุน และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ได้โดยสะดวก โดย ตลท. จะพิจารณาแนวทางการพัฒนาระบบซื้อขายและแพลตฟอร์มของตลาด และ 2) บนแหล่งระดมทุนรูปแบบใหม่ (Digital Path) ระดมทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (Thai Digital Assets Exchange – TDX) ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนสำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจที่มีมูลค่าสูง (high value added) ที่ต้องการระดมทุนในรูป Project Finance รวมถึงกลุ่ม Start-Up และกลุ่มธุรกิจที่เป็น Innovation Base


สกพอ. เชื่อมั่นว่าการพัฒนาแหล่งระดมทุน EEC ใหม่นี้ จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการสนับสนุนบริการการเงินในตลาดทุนและตลาดเงินของประเทศ ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกให้กับธุรกิจในการระดมทุนในสกุลเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งเพิ่มทางเลือกในการให้บริการการเงินรูปแบบใหม่ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระดมทุน สามารถดึงดูดเงินลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมทั้งในพื้นที่อีอีซี และประเทศไทย

“ปัจจุบันในพื้นที่ อีอีซี มีนักลงทุนต่างชาติประมาณ 2,000 ราย คิดเป็น 60-70% ของนักลงทุนในพื้นที่ หากต้องการระดุมทุนก็สามารถดำเนินการได้ทันที ขณะที่กลุ่มคนไทยที่มีมูลค่าการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ประมาณ 5,0000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ก็สามารถกลับมาระดมทุนในไทยได้ และยังมีกลุ่ม Start-Up ใหม่ๆ ที่เป็นเป้าหมายการระดมทุนรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล” นายจุฬา กล่าว  

ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่าการพัฒนาแหล่งระดมทุน EEC (EEC Fundraising Venue) จะเพิ่มทางเลือกแก่ผู้ระดมทุนทั้งบริษัทไทยและต่างประเทศ ที่ใช้เงินตราต่างประเทศเป็น functional currency ให้มีความเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่บริษัทไทยที่ไปจดทะเบียนในต่างประเทศให้มีทางเลือกในการระดมทุนมากขึ้น และจะเป็นการเพิ่มเครื่องมือทางการเงินที่แตกต่างให้กับผู้ลงทุนในตลาดได้ ปัจจุบัน ตลท. ได้พัฒนาเกณฑ์เข้าจดทะเบียนในรูปแบบ New Economy Track ด้วยสกุลบาท ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่สนับสนุนให้กลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษของ EEC สามารถเข้าจดทะเบียนได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำกระดาน US dollar น่าจะช่วยดึงดูดนักลงทุนที่ไม่อยากรับความเสี่ยงด้านเงินตราต่างประเทศ แต่สนใจหลักทรัพย์ underlying ของไทยเป็นสำคัญ


นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เชื่อว่า การพัฒนาแหล่งระดมทุน EEC (EEC Fundraising Venue) จะอำนวยประโยชน์ให้กับทั้งผู้ออกหลักทรัพย์และนักลงทุน  ในการเลือกสกุลเงินที่จะระดมทุน และนำบริษัทเข้าจดทะเบียน โดยยังคงยึดถือกฏเกณฑ์ เงื่อนไขการเข้าจดทะเบียน ซึ่งอิงหลักการเดิมของการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับเป้าหมายของ ก.ล.ต. ที่สนับสนุนเรื่องการลงทุนและการระดมทุนของ New Economy เพื่อเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. ระบุว่าย้ำการพัฒนาโครงการฯ มีความสอดคล้องกับนโยบายของ ธปท. ที่สนับสนุนให้คนไทยลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนไทยที่ต้องการถือสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศให้มีทางเลือกในการลงทุนในหลักทรัพย์ที่ออกระดมทุนในประเทศไทยเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]