กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – USTDA-กฟผ. ร่วมศึกษาความเหมาะสมโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับเขื่อนวชิราลงกรณ เดินหน้าพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ สร้างความมั่นคงของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด
นายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค (Mr.Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในฐานะผู้แทนองค์การการค้าและการพัฒนาของสหรัฐอเมริกา (U.S. Trade and Development Agency : USTDA) และนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามร่วมศึกษาความเหมาะสมโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดของประเทศไทย ส่งเสริมนโยบายสากลในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย
นางสาวอีโนห์ ที. อีบอง (Ms.Enoh T. Ebong) ผู้อำนวยการองค์การการค้าและการพัฒนาของสหรัฐอเมริกา (USTDA) กล่าวว่า USTDA และ กฟผ. ร่วมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี ซึ่งการสนับสนุนโครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายร่วมกันในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับร่วมกัน
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับเป็นโรงไฟฟ้าที่มีอ่างเก็บน้ำสองส่วนคือ อ่างเก็บน้ำตอนบน และอ่างเก็บน้ำตอนล่าง น้ำจากอ่างเก็บน้ำตอนบนจะถูกปล่อยลงมาเพื่อผลิตไฟฟ้าเสริมเข้าระบบในกรณีที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเร่งด่วน โดยในช่วงที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำหรือน้อยลง จะใช้ไฟฟ้าที่เหลือในระบบจ่ายให้กับปั๊มน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำตอนล่างกลับขึ้นไปเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำตอนบนเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย