นนทบุรี 23 มี.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายในเผยภาพรวมสินค้าเกษตรทั้งข้าว มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน ปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน รวมไปถึงผลไม้ ก็เชื่อว่า เกษตรกรได้ราคาดีแน่นอน เนื่องจากได้วางมาตรการดูแลไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้ปีนี้ ยังคงเป็น ปีทอง ของผลไม้ไทย
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ราคาพืชไร่ทั้งข้าว ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ถือว่าราคาปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ และในภาพรวมก็ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เช่น ข้าวหอมมะลิ เฉลี่ยถึง 14,400 – 14,800 บาทต่อตัน / ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 13,500-14,000 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุมธานี 10,500-11,500 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 9,700 – 10,100 บาทต่อตัน และข้าวเหนียว 11,500-12,400 บาทต่อตัน ตามความต้องการข้าวที่ยังมีอยู่ทั้งในประเทศ และการส่งออกของไปต่างประเทศ ที่ไทยตั้งไว้ 8 ล้านตันในปีนี้ ส่วนมันสำปะหลัง ก็ดีขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาท 25 สตางค์ – 3 บาท 70 สตางค์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก็ยังทรงตัวในระดับสูงที่ 11 บาท 60 สตางค์ – 11 บาท 70 สตางค์ ต่อกิโลกรัม สำหรับปาล์มน้ำมัน ก็ปรับขึ้นจากเดือนก่อน อยู่ที่ 5.30 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ด้านราคาผัก ก็ปรับขึ้น-ลงตามกลไกตลาด รวมไปถึงราคาเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ ในภาพรวมปรับลดลงเล็กน้อยที่ 5% ราคาหมูเนื้อแดง ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 190 บาท เนื้อไก่ ติดสะโพก 49-69 บาทต่อกิโลกรัม และไข่ไก่ อยู่ที่ฟองละ 3 บาท 60 สตางค์ ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ราคาก็ยังทรงตัว ซึ่งแต่ละห้าง ก็ได้จัดโปรโมชั่นลดราคาหมุนเวียนกันไปอย่างต่อเนื่อง โดยกรมการค้าภายใน ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทุกหมวดเป็นรายวัน
อย่างไรก็ตาม ผลไม้ ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดหลายชนิด เชื่อว่า ปีนี้ ยังคงเป็นปีทองของผลไม้ไทย เพราะขณะนี้ ได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปีการผลิต 2566 ไว้รองรับแล้ว รวม 17 มาตรการเดิม และมาตรการใหม่อีก 5 มาตรการ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดูแลผลไม้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทุเรียนไทย ยังคงเป็นที่ต้องการ แม้ตลาดนำเข้าสำคัญอย่างจีน ซึ่งมีข่าวสามารถปลูกทุเรียนได้สำเร็จและผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด แต่เชื่อว่าลักษณะทางกายภาพ สีเหลืองสวย และรสชาติหวานหอม ของทุเรียนไทย ยังคงครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้อยู่
นอกจากนี้กรณีที่ชาวสวนมะยงชิดจังหวัดปราจีนบุรีประสบปัญหาถูกยกเลิกคำสั่งซื้อโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ได้ลงไปตรวจสอบ พบว่ามีเกษตรกร ที่ถูกยกเลิกคำสั่งซื้อประมาณ 5-6 ราย รวมปริมาณ 70-80 กิโลกรัมแต่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ผลผลิตที่อยู่ในมือเกษตรกรมีน้อยแล้ว เพราะเป็นช่วงปลายฤดู ที่ผลผลิตออกไปแล้วกว่า 95% เฉพาะจังหวัดปราจีนบุรี ผลผลิตมะยงชิดจะออกหมดภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งหลังจากนี้จะต้องติดตามสถานการณ์ทุเรียนในพื้นที่ปราจีนบุรี ที่ปลูกมากเช่นกัน และผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาด แต่เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบเหมือนกับกรณีมะยงชิดกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย