กทม. 8 มี.ค. – วันนี้มีการเปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทย ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น พบปัญหาสำคัญของประเทศที่ต้องการให้แก้ไขมากที่สุด คือปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
ผลสำรวจครั้งนี้ เป็นความร่วมมือขององค์กรต่อต้านคอรร์รัปชัน (ประเทศไทย) มหาวิทยาลัยหอกาค้าไทย และมูลนิธิเพื่อคนไทย ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทย ในการเลือกตั้ง 2566 การสำรวจครั้งนี้มีประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก 18%
ผลโพลพบว่า ปัญหาสำคัญของประเทศที่ต้องการให้แก้ไขมากที่สุด คือปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน 25% รองลงมาเป็นการศึกษา 14% และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม 13%
เรื่องนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมือง ประชาชนมากถึง 67% บอกว่ามีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนน รองลงมา 28% บอกว่าผลปานกลาง ส่วน 2% บอกว่ามีผลน้อย แต่มีอีก 3% บอกว่าไม่มีผลเลย อย่างไรก็จะเลือกคนที่ชอบ ทั้งนี้ มีประชาชนมากถึง 82.4% ที่เห็นด้วยว่าพรรคการเมืองควรเสนอนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันเป็นนโยบายหลัก
ขณะที่ประชาชนมองว่าปัญหาคอร์รัปชันที่ส่งผลเสียและต้องการให้รัฐบาลเร่งจัดการ อันดับหนึ่งคือปัญหาทุจริตในระบบราชการ 23.9% รองลงมาเรื่องกระบวนการยุติธรรม 21.6% และเรื่องเงินบริจาคแก่สถาบันศาสนา 11.8%
ในส่วนของนักการเมือง กับบทบาทหน้าที่เพื่อสนับสนุนให้เกิดการต่อต้านคอร์รัปชัน ประชาชนมากถึง 40.5% บอกว่าต้องสามารถปฏิบัติหน้าที่และทำได้ตามที่สัญญา ซื่อสัตย์ มีจริยธรรม พร้อมทำงานให้ประชาชน ที่น่าสนใจคือ ประชาชนมากถึง 85.2% มีความหวังกับนักการเมืองที่เป็นคนรุ่นใหม่ต่อการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน
สำหรับพรรคการเมืองที่ไม่มีนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ประชาชน 83.6% บอกว่าจะไม่เลือกเพราะไม่โปร่งใสตั้งแต่แรก และ 86.2% จะไม่เลือกนักการเมืองที่ให้เงินซื้อเสียง เพราะถือเป็นการทุจริตและไม่ซื่อสัตย์ตั้งแต่แรก รวมทั้งยังเป็นการทำผิดกฎหมาย ส่วนสิ่งที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่แก้ไข อันดับหนึ่งคือ การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน 9.8% รองลงมาคือ การดูแลสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของประชาชน 7.8% และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเงินกู้ 7.1%
นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อคนไทย มองว่า จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา 2 ครั้ง ปัญหาทุจริตคอรร์รัปชันไม่ได้ทุเลาลงเลย จึงขอให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะนิวโหวต ในการเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน จากผลสำรวจทำให้เห็นชัดเจนว่าประชาชนอยากเห็นการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน อยากได้นักการเมืองที่อยากเห็นนโยบายที่ชัดเจน คำถามคือ ทำอย่างไรที่ให้เสียงของพวกเรามีพลังให้มากที่สุด
ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีการหาเสียงของพรรคการเมืองในช่วงนี้ที่ส่วนใหญ่เน้นนโยบายประชานิยม แต่ยังไม่ค่อยมีนโยบายด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน อาจเป็นเพราะช่วงนี้ประชาชนอยากได้การแก้ปัญหาปากท้อง ดังนั้น พรรคการเมืองส่วนใหญ่จึงเน้นนโยบายที่เป็นการเติมเงิน แต่ก็มองว่าหากมีนโยบายประชานิยมมากเกินไป จะเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการคลัง อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าทีมยุทธศาสตร์ของแต่ละพรรคการเมืองได้มีการกลั่นกรองนโยบาย และเชื่อว่ามีนโยบายด้านการปราบทุจริต ต่อต้านคอร์รัปชันแน่นอน และเมื่อมีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเสนอนโยบายด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน ก็จะมีพรรคอื่นชูนโยบายตามออกมา จึงอยากขอรณรงค์ให้พรรคการเมืองเน้นเรื่องการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ตะโกนออกมาดังๆ กับสังคม. – สำนักข่าวไทย