ปิดหลังคาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C 

กรุงเทพฯ 4 ม.ค.-ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จัดพิธีปิดหลังคา หลังสร้างศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C โครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จ 100% เตรียมเปิดให้หน่วยงานทยอยเข้าใช้พื้นที่ ต้นปี 2567 เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์รอบศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เพิ่มพื้นที่สีเขียวกว่า 41 ไร่


นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เปิดเผยว่า การจัดพิธีปิดหลังคาอาคารโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C แสดงให้เห็นว่า การก่อสร้างอาคารโครงสร้างพื้นฐานเสร็จเรียบร้อยแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงงานด้านสถาปัตยกรรมภายใน งานตกแต่งภายใน และงานครุภัณฑ์ลอยตัวภายในพื้นที่หน่วยงานเท่านั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ให้หน่วยงานส่วนราชการทยอยเข้าใช้อาคารได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 ปี 2567

สำหรับหน่วยงานหลักที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่สำนักงานภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C มีจำนวน 12 หน่วยงาน ได้แก่ 1. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2. สำนักงานศาลปกครองสูงสุด 3. กรมสอบสวนคดีพิเศษ 4. สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 5. สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า 6. สำนักงานอัยการสูงสุด 7. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 8. กรมการท่องเที่ยว 9. สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 10. สำนักงานราชบัณฑิตยสภา 11. สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) และ 12. สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 5  โดยหน่วยงานที่ได้ยืนยันแบบผังการใช้พื้นที่และไม่มีการปรับแก้ไขแบบเพิ่มเติม เช่น สำนักงานศาลปกครองสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เป็นต้น สามารถทยอยเข้าใช้พื้นที่ได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2567


สำหรับหน่วยงานที่มีการปรับแก้ไขแบบเพิ่มเติม เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมการท่องเที่ยว เร่งสรุปแบบให้ได้โดยเร็ว คาดว่าสามารถเข้าใช้อาคารได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 ปี 2567 DAD คิดค่าเช่าจากส่วนรายการ 390 บาท/ตารางเมตร ระยะเวลา 30 ปี พิจารณาปรับราคาเพิ่มทุก 5 ปี ร้อยละ7 

นอกจากนี้ DAD ยังมีแผนการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยพันธุ์ไม้ต่าง ๆ โดยรอบศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C เพื่อให้บรรยากาศโดยรวมมีความร่มรื่น สดชื่น ผ่อนคลาย เอื้อประโยชน์ทั้งต่อการทำงาน การพักผ่อน การออกกำลังกาย จัดทำลู่วิ่งกลางแจ้ง ระยะ 1,200 เมตร และใช้เป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรม ซึ่งเมืองสีเขียวแห่งนี้จะมิใช่เพียงอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการ พนักงาน และผู้ที่มาติดต่อในศูนย์ราชการฯ เท่านั้น แต่จะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อให้บริการชุมชนโดยรอบ รวมถึงประชาชนทั่วไป เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน   

ปัจจุบันพื้นที่ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน A โซน B และ โซน C มีจำนวนพื้นที่รวมกว่า 378 ไร่ โดย DAD มีแผนที่จะพัฒนาให้เกิดเป็นพื้นที่สีเขียว ทั้งในระดับพื้นดินและสวนลอยฟ้า รวมกว่า 40 ไร่ หรืออย่างน้อยคิดเป็นร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 5 พื้นที่ ดังนี้ 


1. พื้นที่สีเขียวบริเวณอาคารจอดรถและซ่อมบำรุง (Depot) มีขนาดพื้นที่ 5.05 ไร่ รองรับจอดรถ 1,700 คัน มีการจัดสวนด้วยไม้ยืนต้นผสมไม้พุ่ม และบนชั้นดาดฟ้าของอาคารจะทำเป็นสวน Urban Farming หรือฟาร์มเกษตรสำหรับคนเมือง สำหรับอาคารจอดรถอาคาร A เดิม DAD ได้พัฒนาพื้นที่ในรูปแบบ Welcoming Garden พร้อมลานกิจกรรม เปรียบเสมือนสวนหน้าบ้านที่คอยต้อนรับผู้ที่จะเข้ามาภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ  

2. พื้นที่สีเขียวบริเวณสวนหลังศาลพระพรหม ขนาด 5.75 ไร่ DAD ได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ทำเป็นสวนสาธารณะขนาดย่อมแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย นอกจากจะใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจหลบร้อนจากร่มเงาของไม้ใหญ่ ยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมในสวน อาทิ กิจกรรมประกวดภาพถ่ายภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ งานวันลอยกระทง และงาน Garden Food Truck อีกด้วย 

3. พื้นที่สีเขียวบริเวณเกาะกลางถนน ตั้งแต่ซอยแจ้งวัฒนะ 7 ถึงอาคารรัฐประศาสนภักดี ขนาดพื้นที่เป็นแนวยาวรวม 12.05 ไร่ ซึ่งจะปลูกต้นไม้ใหญ่เรียงยาวเป็นทิวแถวกว่า 1,200 ต้น สร้างความร่มเย็น สดชื่น สบายตาด้วยสีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์ตลอดเส้นทาง นอกจากจะเป็นสวนสวยแล้ว ยังตั้งเป้าจะเป็นจุดเช็กอินอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร แลนด์มาร์กแห่งใหม่บนถนนแจ้งวัฒนะ 

4. พื้นที่สีเขียวหน้าอาคารรัฐประศาสนภักดี ขนาดพื้นที่ 12.65 ไร่ ซึ่งเชื่อมต่อกับสวนหลังศาลพระพรหม เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะกลายเป็นสวนสาธารณะที่จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ โดยจะอยู่บริเวณประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกของอาคารรัฐประศาสนภักดี และสามารถมองเห็นอาคาร C ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้อีกด้วย

และ 5. พื้นที่สีเขียวเชื่อมต่อระหว่างอาคาร B กับอาคาร C ขนาดพื้นที่ 5.10 ไร่ โดยเมื่อศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯโซน C แล้วเสร็จทั้งหมดช่วงปลายปี 2567 ประกอบกับแผนการปรับปรุงภูมิทัศน์เพิ่มพื้นที่สีเขียวแล้วเสร็จ โดยไล่เรียงจากสวนสวยหน้าบ้านที่คอยต้อนรับทุกคนจากการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เชื่อมต่อด้วยทิวต้นราชพฤกษ์เหลืองอร่ามร่มเย็นตลอดเส้นทางสู่อาคาร A และอาคาร B ส่งต่อด้วยสวนสาธารณะเขียวชอุ่มสู่อาคาร C ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่ยกระดับให้ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ เป็นต้นแบบเมืองสีเขียว ลดและอนุรักษ์การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]