ค้านอเมริกาพิจารณาไทยหลบเลี่ยงมาตรการ AC

นนทบุรี 15 ธ.ค.-กรมการค้าต่างประเทศเดินหน้าปกป้องผู้ส่งออกเซลล์แสงอาทิตย์ของไทย กรณีสหรัฐอเมริกาประกาศผลการไต่สวนชั้นต้นพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (Anti-Circumvention: AC) สินค้าเซลล์แสงอาทิตย์จากไทย พร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้ส่งออกไทยเพื่อแก้ต่างกรณีดังกล่าวอย่างเต็มที่


นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ได้ออกประกาศแจ้งผลการไต่สวนชั้นต้น (Preliminary Determination) กรณีการไต่สวน AC สินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่ส่งออกจาก 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และไทย โดยระบุว่าผู้ส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ไทย มีการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนมาประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปแล้วส่งออกไปสหรัฐฯ เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping: AD) และมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) ที่สหรัฐฯ ใช้บังคับกับสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่ส่งออกจากจีน 

ทั้งนี้ แม้จะมีการประกาศผลการไต่สวนชั้นต้นว่าไทยมีพฤติกรรมการหลบเลี่ยงอากรดังกล่าว ผู้ส่งออกไทยยังคงสามารถส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ไปยังสหรัฐฯ ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องชำระอากรเพิ่มเติมใดๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้ออกประกาศยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ที่ส่งออกจาก 4 ประเทศดังกล่าวเป็นระยะเวลา 24 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2567 โดยที่ผ่านมา กรมฯ ได้ติดตามความคืบหน้ากรณีการเปิดไต่สวน AC สินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่ส่งออกจาก 4 ประเทศดังกล่าว และแจ้งผู้ส่งออกไทยให้ทราบความคืบหน้าต่างๆ ทันทีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมและปกป้องการส่งออกสินค้าของไทยอย่างเต็มที โดยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 กรมฯ ได้มีหนังสือถึง Ms. Lisa Wang, Assistant Secretary of Commerce for Enforcement and Compliance กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยื่นคัดค้านผลการไต่สวนดังกล่าวแล้ว 


นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 กรมฯ ได้ร่วมหารือกับผู้ส่งออกไทยเกี่ยวกับผลการไต่สวนดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ส่งออกไทยในการโต้แย้งต่อผลการไต่สวนฯ และกรมฯ ได้เน้นย้ำให้ผู้ส่งออกไทยให้ความร่วมมือในกระบวนการไต่สวนของสหรัฐฯ โดยจัดทำหนังสือโต้แย้งผลการไต่สวนดังกล่าวเพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ เพราะกระบวนการไต่สวน AC ของสหรัฐฯ จะเป็นการไต่สวนตามข้อเท็จจริงของผู้ส่งออกเพียงบางรายที่สหรัฐฯ ได้เลือกให้เป็นตัวแทนในการตอบแบบสอบถาม ซึ่งกรณีนี้สหรัฐฯ ได้เลือกผู้ส่งออกไทย จำนวน 2 ราย คิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยจากจำนวนผู้ผลิตทั้งหมดของไทย ดังนั้น กรมฯ จึงอยากให้บริษัทที่เป็นผู้แทนในการตอบแบบสอบถาม ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลในกระบวนการไต่สวนอย่างเต็มที่ และให้ความร่วมมือในการประสานให้ข่าวสารแก่กรมฯ ทราบ เพื่อช่วยในการติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะผลการไต่สวนจะส่งผลต่อทุกบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ในไทย

ทั้งนี้ กระบวนการไต่สวนจะเป็นการพิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูลตามแบบสอบถามที่ผู้ส่งออกไทยได้ชี้แจงต่อสหรัฐฯโดยสหรัฐฯ จะเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง ณ สถานประกอบการของบริษัทที่ประเทศไทย ก่อนจะสรุปผลการไต่สวนและกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะประกาศผลการไต่สวนชั้นที่สุดภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 กรมการค้าต่างประเทศ เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ที่เติบโตตามความต้องการของตลาดภายในประเทศ ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีการเติบโตที่สูงเช่นกัน อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญกับกฎระเบียบการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่มีเงื่อนไขรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด เช่น กฎถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งกรมฯ พร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ให้สามารถผลิตสินค้าและส่งออกสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้องตามกฎระเบียบที่สหรัฐฯ กำหนด 

อย่างไรก็ต่ม ไทยมีการส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 (เดือนมกราคม – ตุลาคม) ไทยส่งออกสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 940.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2564 ที่มีมูลค่าส่งออก 911.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐฯเวียดนาม อินเดีย ไต้หวัน ตุรกี และจีนเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]