กรุงเทพฯ 9 พ.ย. -บางจากฯปลื้ม 9 เดือนกำไรรวม 12,103 ล้านบาท ไตรมาส 3 /65 แม้ขาดทุนสตอก แต่ยังมีมีกำไร2,470 ล้านบาท ธุรกิจต้นน้ำที่นอร์เวย์โตโดดเด่น คาดไตรมาส4 ยังสวย”ท่องเที่ยวฟื้น-โรงไฟฟ้าใช้ดีเซลทดแทนLNG”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 ว่า กลุ่มบริษัทบางจาก มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 227,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 72 มี EBITDA 37,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ128 และมีกำไรสำหรับงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 12,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 106 ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนใน ธุรกิจผลิตปิโตรเลียมในนอร์เวย์ ” OKEA” เป็นบริษัทย่อยตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นต้นมา
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ74,767 ล้านบาท และมี EBITDA 11,487 ล้านบาท ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน โดยหลักมาจากผลกระทบของราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับลดลง ส่งผลให้ไตรมาสนี้กลุ่มบริษัทบางจากมี Inventory Loss หรือขาดทุนสตอก 2,698 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี Operating GRM ปรับลดลงตามCrack Spread อีกทั้ง Crude Premium ปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนกลุ่มธุรกิจตลาด แม้ว่าจะมีค่าการตลาดปรับเพิ่มขึ้น แต่ได้รับผลกระทบจาก Inventory Loss ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปรับลดลง ในขณะที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติฯ ช่วยลดผลกระทบดังกล่าวข้างต้น โดยในไตรมาสนี้ OKEA มีรายได้จาการขายน้ำมันดิบและก๊าซสูงสุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากราคาขายก๊าซธรรมชาติที่ปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 136 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่งผลให้ไตรมาสนี้มีกำไรสำหรับงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 2,470 ล้านบาท คิดเป็น กำไรต่อหุ้น 1.73 บาท
“ไตรมาส 4 ของปีเป็น High Seasonmท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้น คาดหนุน ดีมานด์น้ำมัน และจากที่โรงไฟฟ้ายังมีความต้องการใช้ดีเซลอย่างต่อเนื่อง เพื่อทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาสูงก็คาดว่ายอดขายของบาจากฯจะดีขึ้นต่อเนื่อง” นายชัยวัฒน์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย