mai FORUM 2022 : มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 7 

กรุงเทพฯ 28 ต.ค.– mai FORUM 2022 : มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 7 ผนึกกำลังสมาคม maiA และซีอีโอกว่า 100 บริษัท ให้ข้อมูลผู้ลงทุน ด้านปลัดฯคลัง ย้ำ นโยบายสนับสนุน เอสเอ็มอีร่วมขับเคลื่อนประเทศ ขณะที่ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ เผย ผลประกอบการบริษัทใน เอ็มเอไอ ยังเติบโตแม้เจอภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ


งาน mai FORUM 2022 : มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด “Growing Stronger Together เติบโตแข็งแกร่ง ไปด้วยกัน” โดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จัดขึ้นโรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ (mai) จำนวน 110 บริษัท ครอบคลุมทั้ง 8 กลุ่มอุตสาหกรรม  รวมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) จากโครงการ SET Social Impact Gym ร่วมออกบูธให้ข้อมูลกับนักลงทุนโดยตรง 

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ  “ตลาดทุนกับการพัฒนา SMEs ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน” ย้ำถึงนโยบายที่สนับสนุนให้ธุรกิจ SMEs เป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ร่วมส่งเสริมและพัฒนาให้บริษัทจดทะเบียน เอ็ม เอ ไอ เป็นต้นแบบ(SME Role Model) ให้ผู้ประกอบการ SMEs ในไทยมีบรรษัทภิบาล เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ  พร้อมทั้งฝากให้ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และบริษัทจดทะเบียนพิจารณาประเด็นความท้าทายในระยะสั้นและในระยะยาว ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของระดับราคา ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน การเงินสีเขียว(Green Finance) การเงินเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Finance) และการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อไป


ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยึดมั่นวิสัยทัศน์ To Make the Capital Market Work for Everyone มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมขับเคลื่อนตลาดทุนด้วยความยั่งยืน ปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ไทยจำนวนมากต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคในการเติบโต นั่นคือการขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ถึงแม้ธุรกิจเหล่านี้จะมีศักยภาพ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ริเริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มที่รวบรวมองค์ความรู้ และเครื่องมือต่างๆเพื่อพัฒนาศักยภาพ อย่าง LiVE Platform และร่วมกับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พัฒนาตลาดหลักทรัพย์LiVE Exchange ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนให้กับ SMEs และ Startups โดยมุ่งหวังว่าบริษัทเหล่านี้ จะเติบโตเป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ขึ้นใน mai และ SET ต่อไป โดยปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ มีบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 191 บริษัท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 562,600 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ต.ค.2565) 

ขณะที่ นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) ในฐานะผู้จัดงาน mai FORUM 2022 ครั้งที่ 7 นี้ กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นการกลับมาจัดอีกครั้งหลังจากเว้นว่างไป 2 ปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19  นักลงทุนและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน และยังมีผู้ติดตามผ่านทาง Facebook Live ของทางสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และ www.maiFORUM.com รวมถึงช่องทางของสื่อด้านการลงทุนอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นงานเดียวที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้พบปะพูดคุยกับ CEO บริษัทจดทะเบียน mai แบบใกล้ชิด และมีบูธจากตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) พร้อมเจ้าหน้าที่ คอยให้ข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการที่มีความประสงค์จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมถึงได้รับฟังเสวนาจากกูรูด้านการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนนำไปเป็นแนวทางในการวางแผนการลงทุนต่อไป

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ กล่าวว่า  จากภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนใน เอ็มเอไอ ยังสามารถมีรายได้ที่เติบโตขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องยากในภาวะวิกฤติ สิ่งที่น่าสนใจ คือ การบริหารจัดการที่ดี ทำให้บริษัทยังมีผลกำไร แต่ในอนาคต ที่สถานการณ์มีแนวโน้มยากขึ้นทั้ง ภาวะสงคราม หรือ เงินเฟ้อ จึงต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ประกอบกับ ทิศทางเศรษฐกิจไทย ที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากการท่องเที่ยวที่กลับมา จึงเชื่อว่าผู้บริหารของบริษัทในเอ็มเอไอ จะนำพาธุรกิจให้ผ่านไปได้ พร้อมฝากนักลงทุนว่าในเอ็มเอไอ  ยังมีธุรกิจที่น่าสนใจที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้ 


ทั้งนี้ ในงาน mai FORUM 2022 ในช่วงบ่าย ยังมีการให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ เช่น นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนะสิน จำกัด(มหาชน) ,ดร วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ทรินิตี้ จำกัด และนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ที่ให้ความเห็นถึงทิศทางของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยในอนาคต .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]