มาตรการกระตุ้นใช้จ่ายภาครัฐหนุน ศก.ภูมิภาคฟื้นตัวดีขึ้น

กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – “ทิพานัน” เผยมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายภาครัฐหนุนเศรษฐกิจภูมิภาคฟื้นตัวดีขึ้น ท่องเที่ยวโต-จ้างงานเพิ่ม-ใช้จ่ายคึก ย้ำนายกฯ เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ดีต่อเนื่อง


น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รายงานภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกันยายน 2565 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีสำนักงานภาค 3 แห่ง ประกอบด้วย สำนักงานภาคเหนือ สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสำนักงานภาคใต้ มีการติดตามและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ทั้งในส่วนของเศรษฐกิจภาพรวม ประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค เพื่อใช้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ครอบคลุมและทันเหตุการณ์ พบว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐส่งผลให้เศรษฐกิจภูมิภาคโดยรวมทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ดังนี้

ภาคเหนือ การท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง สนับสนุนกำลังซื้อและการจ้างงาน เนื่องจากมีแรงหนุนจากการจัดกิจกรรมภายในพื้นที่ เช่น การจัดงานแข่งกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ใน จ.เชียงใหม่ และแนวโน้มการท่องเที่ยวในระยะถัดไปยังมีทิศทางที่ดี เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น สะท้อนจากยอดจองห้องพักล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ด้วยการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น สนับสนุนให้เกิดความต้องการแรงงานมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจภาคบริการ ร้านอาหาร และโรงแรม ตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการจัดงานอีเวนต์ภายในพื้นที่ที่ทยอยกลับมา อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากปัจจัยด้านการท่องเที่ยว กิจกรรมเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการขนสินค้าที่ยังอยู่ในเกณ์ดี ด้านการซื้อสินค้าออนไลน์ลดลงตามการออกมาจับจ่ายในช่องทางปกติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น


ภาคอีสาน มาตรการภาครัฐช่วยพยุงการใช้จ่ายและการจ้างงานให้อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งมีการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ภาคอีสานเยอะขึ้น และการเดินทางมาร่วมกิจกรรมการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการโมโตจีพี ใน จ.บุรีรัมย์ ช่วงปลายเดือนกันยายน-ต้นตุลาคม จึงทำให้มีการเดินทางคึกคักและการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการแรงงานในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่มีปัญหาเรื่องการเปิดรับแรงงาน เพราะมีแรงงานทยอยกลับไปยังแหล่งงานเดิมในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก เช่น กทม. ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานต้องการแรงงานอย่างต่อเนื่องทั้งในภาคอีสานเองและพื้นที่เศรษฐกิจอื่นๆ ด้วย

ขณะที่ภาคใต้ การท่องเที่ยวยังดีต่อเนื่องและมีมาตรการภาครัฐหนุนการใช้จ่าย โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง และกลุ่มประชุมสัมมนาในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ที่สะท้อนจากอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น และการจ้างงานยังมีต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ประกอบกับมีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐช่วยหนุนการใช้จ่ายให้ดีขึ้น

“จากความเชื่อมั่นที่ประชาชนเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ในจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้จังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียงในภูมิภาคนั้นๆ ได้อานิสงส์คึกคักตามขึ้นมาด้วย” น.ส. ทิพานัน กล่าว


น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจจนเห็นผล ถึงแม้มีวิกฤติต่างๆ เพราะขณะนี้สัญญาณเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะในภูมิภาค สะท้อนถึงประสิทธิภาพของมาตรการของรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและครอบคลุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด