fbpx

ก.คมนาคม-เกษตรฯ ลงนาม MOU พัฒนาระบบการตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก

กรุงเทพฯ 29 ก.ย.- กระทรวงคมนาคม จับมือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการพัฒนาระบบการตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นประธานพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการพัฒนาระบบการตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก ระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

โดยการลงนาม มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม และนายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ลงนาม และนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ร่วมเป็นสักขีพยาน


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่งและการค้า และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ รวมถึงการกำหนดกลไกในการกำกับดูแลการประกอบกิจการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส

กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสินค้าทางการเกษตรและสินค้าเน่าเสียง่ายของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และสอดคล้องตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคเป็นศูนย์กลางรวบรวมผลผลิต/กระจายสินค้าเกษตรหรือสินค้าเน่าเสียง่ายสู่ตลาด จึงร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการพัฒนาระบบการตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานสินค้าทางการเกษตรก่อนส่งออกไปยังประเทศปลายทาง เพื่อประโยชน์ในการเชื่อมต่อกระบวนการขนส่งสินค้าและการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าทางการเกษตรหรือสินค้าเน่าเสียง่ายให้เข้ากับหลักเกณฑ์ของประเทศปลายทางและความต้องการของผู้บริโภค

รวมทั้งเพื่อลดผลกระทบจากกระบวนการขนส่งสินค้าเกษตรหรือสินค้าเน่าเสียง่ายที่ไม่ได้มาตรฐาน (Food Waste) ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร มีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าพร้อมออกใบรับรอง โดยในระยะแรก จะเริ่มที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะขยายผลต่อไปยังท่าอากาศยานอื่น ๆ ในอนาคต


การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือในการพัฒนากระบวนการตรวจสอบสินค้าเกษตรเพื่อส่งเสริมการส่งออก โดยการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตร ก่อนขึ้นอากาศยาน เพื่อลดการถูกปฏิเสธสินค้าเกษตร ณ ประเทศปลายทาง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้การขนส่งสินค้าของผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ รวมทั้งเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมกิจการการขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ในภาพรวมของประเทศ เพื่อนำพาประเทศไทย ไปสู่การเป็นศูนย์กลางรวบรวมผลผลิตและกระจายสินค้าเกษตรหรือสินค้าเน่าเสียง่ายสู่ตลาด และศูนย์กลางธุรกิจการบินและการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางอากาศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง