กรุงเทพฯ 28 ก.ย.-ตลาดหุ้นไทยหลุด 1,600 จุด บาทอ่อนแตะกว่า 38 บาท/ดอลลาร์ ก่อนรับทราบผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) บ่ายนี้ คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ หลุด 1,600 จุด ปรับตัวลงกว่า 10 จุด ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ที่ยังปรับลงต่อเนื่องเพราะหวั่นธนาคารกลางสหรัฐขึ้น (เฟด)ดอกเบี้ยแรง และธนาคารทั่วโลกทยอยขึ้นดอกเบี้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) โดยมื่อเวลา 10.41 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,599.16 จุด ลดลง 11.42 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา CFP ผอ.อาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส – ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดรอดู กนง.ซึ่งคาดว่าขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไปสู่ระดับ 1% โดยประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆก็จะขึ้นสะท้อนในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ซึ่คงจะรอดูแบงก์ใหญ่เป็นหลัก เมื่อทราบผลแล้วประเมินว่า หุ้นกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวหลังจากทรุดลงก่อนหน้านี้
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ด เป็นไปตามตลาดหุ้นภูมิภาค และเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้ Fund Flow ไหลออก มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก กลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ PTT, CPALL, GULF คาดว่าเป็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ
ด้านค่างินบาทอ่อนค่า ไปแตะ 38.09 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2549 (อ่อนค่าสุดในรอบกว่า16 ปี) เป็นทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งถูกกดดันเพิ่มขึ้นช่วงเช้านี้หลังจากที่เงินหยวนอ่อนค่าทะลุระดับ 7.22 หยวนต่อดอลลาร์ฯ, เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นต่อตามการปรับตัวขึ้นของพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์)
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่ากรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.90-38.20 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด อาทิJames Bullard ที่ยังคงสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จนกว่าเฟดจะสามารถคุมปัญหาเงินเฟ้อได้สำเร็จ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงชัดเจนและเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ผู้เล่นในตลาดเดินหน้าเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
“โอกาสวันนี้ เงินบาทอาจอาจขึ้นไปทดสอบโซนแนวต้านถัดไปแถว 38.20 บาทต่อดอลลาร์ได้ หาก กนง. มีมติขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่เราคาด ในขณะที่ผู้เล่นในตลาดเริ่มคาดหวังให้ กนง. เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าของเงินบาท จากการขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติทั้งดัชนี SET ส่วน บอนด์ยีลด์ระยะยาวของไทยก็ปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์ในตลาดโลก ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติเดินหน้าเทขายบอนด์ระยะยาวต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 กว่า 8.4 พันล้านบาท” นายพูน กล่าว .-สำนักข่าวไทย