เมืองทองธานี 15 ก.ย.- คลัง-กยศ. ประสานเสียง ผู้กู้เงิน กยศ. “รักษาวินัยชำระคืน” เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้รุ่นน้องมีทุนเรียน ยังเป็นห่วงเบี้ยวหนี้เพิ่ม หลังสภาผ่านร่างกฎหมายปลอดดอกเบี้ย งดค่าปรับ กยศ.ยอมรับเงินหายไป 6 พันล้านบาทต่อปี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีสภาผู้แทนราษฏร เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ด้วยการให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาแบบปลอดดอกเบี้ย ไม่คิดค่าปรับผิดนัดชำระ และให้มีผลย้อนหลังผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันทุกราย ยอมรับว่าการรักษาวินัย ในการชำระคืนเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผ่านมา กองทุน กยศ. มีทุนบริการได้ด้วยตัวเองไม่ต้องเพิ่งพาเงินงบประมาณแล้ว เพราะมีเงินชำระคืนจากรุ่นพี่ แต่เมื่อสภาฯ เห็นชอบเงื่อนไขใหม่ งดคิดดอกเบี้ย ต้องหาทางใหม่ในการบริหารเงินกองทุน กยศ. ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อประเมินการกู้เงินในอนาคต
“เงินกู้ถึงแม้จะมี หรือไม่มีดอกเบี้ย แต่การมีวินัยการชำระหนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะรุ่นพี่ที่จบการศึกษาเมื่อทำงาน มีรายได้ต้องชำระหนี้คืน เพื่อให้รุ่นน้องได้มีเงินทุนในการเล่าเรียน เป็นการต่อยอดกับรุ่นต่อไป หากคนรุ่นใหม่ต้องการทุนมากขึ้น เมื่อรายได้ไม่เข้ามา การไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ จึงจำเป็นต้องใช้เงินก้อนเดิมมาใช้หมุนเวียน หากไม่ชำระคืนต้องเป็นภาระต่อสภาพคล่องของกองทุน กยศ. ในอนาคต แต่หากมีดอกเบี้ยการกู้ จะมีความคล่องตัวมากขึ้น กยศ. จึงต้องเข้มงวดในการเรื่องการชำระคืน” นายอาคม กล่าว
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้องติดตามดูว่า หากไม่คิดดอกเบี้ย จะส่งผลต่อการ ไม่มีวินัยการเงิน ทำให้คนกู้เบี้ยวหนี้มากขึ้นหรือไม่ ในหลักการที่ผ่านมา การกู้เงินต้องคิดดอกเบี้ย ขณะที่รัฐบาลไม่หวังเอากำไรจากการกู้จากนักเรียน นักศึกษา แต่เพื่อต้องการรักษาวินัยการชำระคืน ส่วนสถานะกองทุน กยศ.
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า การแก้ไขร่าง พ.ร.บ. กยศ. ของรัฐบาลเสนอให้จัดเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 2 ดอกเบี้ยปรับร้อยละ 7.5 เพื่อต้องการให้รักษาวินัยการกู้เงิน แต่เมื่อสภาฯ เห็นชอบการยกเว้นดอกเบี้ย คงต้องเน้นรณรงค์ให้รุ่นพี่ต้องให้ความสำคัญในการชำระเงินคืน เพื่อให้รุ่นน้องผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีเงินกู้ในการเรียน กรณี ผลของร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ จะทำให้เงินหายไปจากดอกเบี้ยและ เบี้ยปรับปีละ 6 พันล้านบาท จากเงินหมุนเวียน 4 แสนล้านบาท สำหรับขั้นตอนของกฎหมาย อาจต้องลุ้นการพิจารณาของวุฒิสภาด้วยเช่นกัน ว่าจะเห็นชอบในเรื่องนี้อย่างไร แต่ขอยืนยัน กยศ.เป็นหลักประกันเงินทุนให้กับทุกครอบครัวในการเล่าเรียน
ตั้งแต่เริ่มตั้งกองทุน กยศ. 20 ปีที่ผ่าน ซึ่งตั้งมาในสมัยในชวน หลีกภัย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ปล่อยกู้ให้นักเรียน นักศึกษาไปแล้ว 6 แสนล้านบาท จำนวน 6.2 ล้านคน ชำระเงินปิดบัญชีไปแล้ว 1.6 ล้านคน อยู่ระหว่างการเรียน 1 ล้านคน อยู่ระหว่างชำระเงินกู้ 3.5 ล้านคน ผิดนัดชำระ 2.5 ล้านคน วงเงินผิดนัดชำระ 9 หมื่นล้านบาท สำหรับผู้จบการศึกษาและทำงานทะยอยชำระหนี้ 3 หมื่นล้านบาท ในปี 65 ปล่อยกู้ไปแล้ว 4 หมื่นล้านบาท จากผู้กู้ 6.4 แสนคน โดยมีเงินไหลเข้ามาจากการชำระหนี้ปีละ 3 หมื่นล้านบาท ในอนาคต กยศ. อาจต้องปรับรูปแบบการกู้เงิน สำหรับนักเรียน นักศึกษายุคใหม่ รองรับการอบรม การเรียนในคอร์สระยะสั้น เช่น การฝึกอบรมอาชีพ การเพิ่มทักษะ เพื่อกู้ในระยะ 6 เดือน หรือ 1 ปี .-สำนักข่าวไทย