กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- รัฐมนตรีคลัง เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันทั่วโลก ชูศักยภาพเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย Thailand Focus 2022 ไทยยังมีปัจจัยบวก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง งบปี 66 ผ่านฉลุย เริ่มอัดเงินสู่ระบบ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Thailand’s Economic Reopening and Enhancing Copetitive Advantage” เพื่อนำเสนอยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจหลังเปิดประเทศ พร้อมด้วยภาคธุรกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุน โดยมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนกว่า 120 บริษัท มาร่วมรับฟัง นายอาคมเน้นย้ำ นักลงทุนยังเชื่อมั่นพื้นฐานเศรษฐกิจไทย โดยมี 4 ปัจจัยบวกขับเคลื่อนเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย 1.การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าจะเดินทางเข้าไทยประมาณ 8-10 ล้านคนในปี 65 ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเติบโตช้า เพราะจีน เมื่อเดินทางเข้าไทย เมื่อกลับประเทศต้องกักตัวเป็นเวลานาน จึงทำให้จีนเดินทางเข้าไทยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
2. การส่งออก นับเป็นอีกปัจจัยบวก เพราะช่วง 6 เดือนแรก ขยายตัวร้อยละ 12 เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่า ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน สินค้าเกษตร อาหาร ยังเป็นโอกาสสำคัญในการส่งออก ท่ามกลางปัญหาโควิด-19 และยังได้ขอความร่วมกับสภาผู้ส่งออกทางเรือฯ ผลักดันการส่งออกในปีนี้ขยายตัวร้อยละ10 3. การลงทุน และการใช้จ่ายภายในประเทศ เมื่อรัฐบาลเติมกำลังซื้อผ่าน คนละครึ่งเฟส 5 เมื่อเริ่มใช้จ่ายการค้าขายจะคึกคักมาก เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ยังคาดว่าจีดีพีของไทยขยายตัวทั้งปีร้อยละ 3-3.5 อัตราเงินเฟ้อไตรมาส 4 น่าจะเริ่มลดลง
โดยเฉพาะเมื่องบประมาณรายจ่ายปี 66 บังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม ช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ ได้เร่งรัดส่วนราชการผลักดันโครงการลงทุนขนาดเล็ก เพื่อให้เงินลงทุนออกสู่ระบบช่วงปลายปี ด้วยการประมูลจัดซื้อจัดจ้างไปพลางก่อน จะลงนามอีกครั้งเมื่อถึงเดือนตุลาคม
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวในเรื่อง “นโยบายการเงินสู่การฟื้นตัวอย่างสมดูล” ว่า แบงก์ชาติไม่กังกวลปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอยมากนัก และยังใช้นโยบายดอกเบี้ยปรับเพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป คงไม่ปรับเพิ่มแบบรุนแรง เพราะปัญหาอัตราเงินเฟ้อของไทยไม่เหมือนกับสหรัฐ อังกฤษ คาดว่าเงินเฟ้อไทยจะลดลงในไตรมาส 4 ยอมรับว่า จึงอยากให้ดอกเบี้ยของระบบกลับสู่ภาวะปกติ นโยบายการเงินจะไม่รัดกุมมากเกินไป ส่วนการปรับเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำ จะมีการประชุมไตรภาคี 26 สิงหาคมนี้ มองว่าไม่กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อมากนัก แม้ต้นทุนผู้ประกอบการจะเพิ่มสูงขึ้น
ขณะนี้เงินทุนไหลเข้าประมาณ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมมีความกังวลเรื่องเงินทุนไหลออก นับว่าเป็นเรื่องปกติของการไหลเข้า-ออก ของเงินทุนต่างชาติ สำหรับมาตรกรของ ธปท. ส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์อัดฉีดเงินออกสู่ระบบผ่านสินเชื่อฟื้นฟู พร้อมสานต่อไปอย่างต่อเนื่อง มองว่ามาตรการที่มีอยู่เพียงพอ โดยต้องผลักดันให้เป็นผลมากขึ้น ต้องดูแลกลุ่มเปราะบาง เอสเอ็มอี และพร้อมขยายมาตรการ ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนเมษายนปี 66
สำหรับปัจจัยบวกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยังมองว่า การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญ ยังเป็นเรื่องการท่องเที่ยว เพราะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 12 ของจีดีพี มีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 ของการจ้างงานทั้งระบบ ยอมรับว่าต่างชาติยังไม่เดินทางท่องเที่ยวมากนัก บางส่วนยังกังวลเรื่องโควิด-19 กลายพันธ์ ทำให้การเดินทางไม่คึกคักเหมือนเดิม ยอมรับว่านักลงทุนต่างชาติ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย.-สำนักข่าวไทย